คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยลักทรัพย์ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประพฤติตนเป็นคนจรจัด และบังอาจวิ่งราวกระเป๋าหนังของนางเมี่ยวล้ง ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษหลายครั้ง ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๓๐, ๒๙๗, ๗๓ และ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ มาตรา ๖, ๘, ๙ จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับในข้อเคยต้องโทษ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑ ปี เพิ่มโทษตามมาตรา ๗๒ อีก ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน และพ้นโทษแล้วส่งตัวไปกักกันอีก ๔ ปี
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ ศาลจะลงโทษเกินคำขอไม่ได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๗ นั้น มีลักษณะครบถ้วนในความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๘๘ เพราะมาตรา ๒๘๘ เป็นแม่บทในเรื่องความผิดฐานลักทรัพย์ ความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามมาตรา ๒๙๗ เป็นเหตุฉกรรจ์ในความผิดฐานลักทรัพย์ เพราะเป็นการลักทรัพย์โดยกริยาบังอาจด้วยการฉกฉวยพาทรัพย์หนีไปต่อหน้า ข้อเท็จจริงที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานวิ่งราวทรัพย์ ก็รวมความผิดฐานลักทรัพย์อยู่ในตัวด้วยแล้ว เมื่อทางพิจารณาโจทก์สืบสมว่า จำเลยลักทรัพย์ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๘๘ ตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้
พิพากษายืน

Share