คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การให้ตำรวจจับผู้ต้องหาถือว่าเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว
โจทก์ได้ร้องทุกข์ในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวต่อพนักงานสอบสวน ภายในกำหนดอายุความ 3 เดือน โจทก์นำคดีมาฟ้องศาลเกินกว่า 3 เดือน แต่ยังไม่พ้นอายุความฟ้องคดีอาญาตามกฎหมายลักษณะอาญา คดีของโจทก์หาขาดอายุความไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๗, ๓๕๒ , ๘๓, ๙๑ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๑๑๘, ๓๑๔, ๖๓, ๗๑
ศาลแขวงธนบุรีไต่สวนมูลฟ้องแล้วให้ประทับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒ ในข้อหาแจ้งความเท็จ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลรับประทับฟ้องข้อหาฐานยักยอกด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่า โจทก์ได้แจ้งให้การให้ตำรวจจับจำเลยที่ ๑ ซึ่งถือว่าเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว ความผิดตามมาตรา ๓๑๔ มีโทษจำคุกไม่เกินกว่า ๓ ปี และปรับไม่เกิน ๒๐๐๐ บาทดังนี้ การฟ้องคดีอาญามีอายุความ ๕ ปี เมื่อคดีนี้ปรากฏว่าโจทก์ได้ร้องทุกข์แล้ว แม้โจทก์จะฟ้องศาลเกินกว่า ๓ เดือน แต่ยังไม่พ้นอายุความตามมาตรา ๗๘ (๓) ซึ่งอนุญาตให้ฟ้องภายใน ๕ ปี คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ ส่วนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นก็ได้ไม่สวนและวินิจฉัยเชื่อแล้วว่า จำเลยทั้งสองได้ขายฝากรถยนต์ให้โจทก์จริง ซึ่งถือได้ว่าคดีมีมูล
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นประทับฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานยักยอกไว้ด้วย

Share