แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะนายไปล่ผู้ตายกับนายไสวจำเลยทุ่มเถียงกันจนนายไปล่ผู้ตายเตะปากนายไสวจำเลยไปทีหนึ่ง นายไสวจำเลยคว้าไม้ตะพดตีนายไปล่ถูกแถวต้นคอทันที นายไปล่ยังไม่ทันทำอะไรต่อไป นายแหวนจำเลยอยู่ที่บ้านของตนเห็นนายไสวจำเลยซึ่งเป็นน้องชายถูกนายไปล่เตะปาก จึงพลอยเจ็บแค้น วิ่งมาเตะนายไปล่ มิได้คบคิดกันมาก่อนแต่อย่างใด นายไปล่ตายเพราะถูกตีคอหัก ถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองนี้ได้ร่วมกันกระทำร้ายนายไปล่ ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่จำเลยต่างคนต่างทำใครทำเท่าไหร่ ก็ผิดเท่านั้น ความตายของนายไปล่เป็นผลจากการกระทำของนายไสวจำเลย นายไสวจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา ส่วนนายแหวนจำเลยผิดเพียงฐานกระทำให้นายไปล่ได้รับอันตรายแก่กาย
ส่วนตอนที่จำเลยทั้งสองช่วยกันหามนายไปล่ผู้ตายไปทิ้งน้ำต่อไปนั้น เป็นการกระทำต่อศพนายไปล่ เป็นเหตุการณ์ต่างหากอีกตอนหนึ่ง และตอนนี้ถือได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานย้ายและซ่อนเร้นศพ เพื่อปกปิดการตายและเหตุแห่งการตายของนายไปล่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันฆ่านายไปล่ตาย และช่วยกันหามศพนายไปล่ไปทิ้งลงคลองเพื่อปกปิดการตายและเหตุแห่งการตายของนายไปล่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๑๙๙, ๘๓ และ๙๑
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา และฐานย้ายซ่อนเร้นศพ เพื่อปกปิดการตายและเหตุแห่งการตาย ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๑๙๙, ๘๓ ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิตแต่นายไสวจำเลยถูกผู้ตายเตะเอาก่อน จึงทำร้ายตอบ ถือได้ว่าถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงโดยไม่เป็นธรรม สมควรลดโทษให้เหลือเพียงจำคุก ๑๖ ปี คำรับชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษจำเลยลงคนละ ๑ ใน ๓ คงให้จำคุกนายไสวจำเลย ๑๐ ปี ๘ เดือน และจำคุกนายแหวนจำเลย ๑๔ ปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ไม่ได้ทำผิดและสำหรับนายแหวนจำเลยฎีกาต่อไปอีกว่า หากจะฟังว่านายแหวนจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายด้วย ก็เพียงแต่เตะผู้ตายทีเดียวเท่านั้น และมิได้สมคบกับนายไสวจำเลยมาแต่แรก นายแหวนจำเลยไม่ควรมีความผิดถึงฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นายไปล่ผู้ตายนำสุราไปชวนนายแป๊ะดื่มกินกันที่ลานบ้านนายแป๊ะ มีนายไสวจำเลยและนายใบร่วมดื่มอยู่ด้วย ระหว่างนั้นนายไปล่เมามากหน่อย ได้ทุ่มเถียงกันขึ้นกับนายไสว จำเลยด้วยเรื่องลูกต่อลูกไม่ถูกกันประสาเด็ก นายไสวจำเลยทุ่มเถียงไม่ลดละ นายไปล่จึงพรวดพราดลุกขึ้นเตะปากนายไสวจำเลยไปทีหนึ่ง นายไสวจำเลยคว้าไม้ตะพดสี่เหลี่ยมโตขนาด ๓ นิ้ว ยาว ๑ แขน ตีนายไปล่ที่แถวต้นคอไปทันที นายไปล่ยังไม่ทันทำอะไรต่อไป นายแหวนจำเลยซึ่งบ้านอยู่ใกล้ ๆ มองเห็นกัน ก็วิ่งมาตรงเข้าเตะที่หว่างขานายไปล่ ๑ ที นายไปล่ล้มลงแล้วก็เลยเงียบเสียงและแน่นิ่งไปทันที จำเลยทั้งสองก็ช่วยกันหามนายไปล่ไปทิ้งลงคลอง รุ่งขึ้นมีผู้พบศพนายไปล่โผล่ขึ้นในลำคลอง
ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่า เฉพาะนายแหวนจำเลยยังไม่ถนัดที่จะฟังว่า ได้เจตนาฆ่านายไปล่ด้วย เพราะขณะนายไปล่กับนายไสว จำเลยทุ่มเถียงกันจนเป็นเรื่องขึ้นนี้ นายแหวนจำเลยมิได้มาเกี่ยวข้องด้วย โดยนายแหวนจำเลยอยู่ที่บ้านของตน ต่อเมื่อได้เห็นนายไสวจำเลยน้องชายถูกนายไปล่เตะปากแล้ว จึงพลอยเจ็บแค้นวิ่งมาเตะนายไปล่ มิได้คบคิดกันมาก่อน แต่อย่างใด ตอนนี้จึงถือไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำร้ายนายไปล่ตามกฎหมาย (ประมวลกฎหมายอาญา ม.๘๓) ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่จำเลยต่างคนต่างกระทำ ใครทำเท่าไรก็ผิดเท่านั้น แพทย์ว่านายไปล่ตายเพราะคอหัก ความตายของนายไปล่จึงเป็นผลจากการกระทำของนายไสวจำเลย จะถือว่าเป็นผลจากการกระทำของนายแหวนจำเลยด้วยหาควรไม่ นายแหวนจำเลยจึงควรมีความผิดเพียง เท่าที่เป็นผลจากการกระทำของตน คือ กระทำให้นายไปล่ได้รับอันตรายแก่กาย ส่วนการที่จำเลยทั้งสองช่วยกันหามนายไปล่ไปทิ้งน้ำต่อไปนั้น ต้องฟังว่า เป็นการกระทำต่อศพนายไปล่ เป็นเหตุการณ์ต่างหากอีกตอนหนึ่ง และตอนนี้ถือได้ว่าจำเลยร่วมกันกระทำความผิดฐานย้ายและซ่อนเร้นศพ เพื่อปกปิดการตายและเหตุแห่งการตายของนายไปล่ดังฟ้อง
พิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ เฉพาะการลงโทษนายแหวนจำเลยว่า ให้ลงโทษจำคุกตามประมวลกฎหมาอาญา ม. ๒๙๕ มีกำหนด ๒ ปี จำคุกตาม ม.๑๙๙ อีก ๑ ปี รวมเป็นจำคุก ๓ ปี คำรับชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตาม ม.๗๘ คงจำคุกนายแหวนจำเลยเพียง ๒ ปี นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์