คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2474

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การพิจารณาคดีอาชญาทั้งปวง ศาลต้องได้ฟังคำพะยานที่เบิกความต่อหน้าศาลโดยฉะเพาะคดีนั้น ๆ การวินิจฉัยคดีอาชญาจะอ้างสำนวนในคดีอื่นซึ่งแม้คู่ความรับว่ามีโอกาสซักถามแล้วก็ดีแต่อย่างเดียวนั้นไม่พอฟังลงโทษจำเลยได้ เทียบฎีกา 52 -53 /60

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์เป็นผู้ร้านลักโคของจำเลยไป จำเลยตามทันไล่จับโจทก์ๆหันต่อสู้ จำเลยจึงฟันโจทก์แลจับส่งกำนัน บัดนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำร้ายโจทก์ แลในวันพิจารณาคดีนี้โจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพะยานขออ้างพะยานในสำนวนอาชญาเลขแดงที่ ๑๑๖๒,๑๑๖๓/๒๔๗๒ ซึ่งอัยยการฟ้องโจทก์คดีนี้ หาว่าลักโคของจำเลยมาชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีนี้ต่อไป แลรับกันว่าคู่ความได้มีโอกาศซักค้านพะยานในคดีนั้นแล้วดังนี้ จึงมีปัญหาว่า เมื่อโจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากคำพะยานในสำนวนก่อนมาชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีนี้จะได้หรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า การวินิจฉัยคดีอาชญาทั้งปวง ศาลจะต้องได้ฟังคำพะยานที่เบิกความต่อหน้าศาลโดยฉะเพาะคดีนั้น การที่คู่ความอ้างคำพะยานในสำนวนอื่นมาให้ศาลชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีนี้อีกครั้งหนึ่งนั้นไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา จึงให้ยกฟ้องโจทก์

Share