แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็น กฎหมายพิเศษใช้กับผู้กระทำผิดทางอาญาถูกจำคุกหลายครั้งไม่เข็ดหลาบหาขัดกับกฎหมายอาญา มาตรา 25 ไม่ ศาลย่อมยกขึ้นใช้ปรับบทแก่จำเลยในกรณีเช่นนี้ได้ ทั้งไม่ขัดต่อ กฎหมายรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักปากกาหมึกซึม 1 ด้ามของนายสวัสดิ์ บนรถรางจำเลยเคยถูกลงโทษกักกันและต้องโทษลักษณะประทุษร้ายต่อทรัพย์เกิน 3 ครั้ง พ้นโทษครั้งสุดท้ายยังไม่ครบ 5 ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ จำเลยรับสารภาพ
ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 293, 74, 59 คงจำคุก 3 ปี พ้นโทษแล้วให้ส่งตัวไปกักกันอีก 3 ปี ตามพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
จำเลยฎีกาว่าลงโทษกักกันไม่ได้ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นกฎหมายพิเศษใช้สำหรับผู้ที่ถูกจำคุกเพราะการกระทำผิดทางอาญาหลายครั้งไม่เข็ดหลาบ หาเป็นการขัดกับกฎหมายอาญา มาตรา 25 ไม่และกฎหมายอาญาบัญญัติให้ใช้ได้ทั่วไปในสรรพคดี เว้นแต่พระราชกำหนดกฎหมายนั้น ๆ บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ฉะนั้นศาลจึงยกพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายขึ้นมาใช้ปรับบทแก่จำเลยผู้กระทำผิดหลายครั้งไม่เข็ดหลาบได้ และไม่เป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญแต่ประการใด
จึงพิพากษายืน