คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้เสียหายตกลงจะซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลย แม้จะเป็นโดยจำเลยใช้อุบายหลอกลวงอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงก็ดีก็เป็นความตกลงที่มีวัตถุประสงค์จะกระทำผิดกฎหมาย มิได้เป็นไปด้วยความสุจริตจะถือตนว่าเป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้ ฉะนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีอันเนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเช่นนี้ มาว่ากล่าวได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงประกอบด้วยเอาความเท็จมากล่าวแก่ผู้เสียหายว่าจำเลยกับพวกมีธนบัตรปลอม ซึ่งใช้ได้สะดวกเช่นเดียวกับธนบัตรดีจำหน่ายผู้เสียหายหลงเชื่อ และตกลงซื้อในราคาธนบัตรปลอม 100 บาทต่อธนบัตรดี 50 บาท ครั้นผู้เสียหายมอบเงิน 1,050 บาท ให้แก่จำเลยกับพวก เพื่อซื้อธนบัตรปลอมดังกล่าว พวกของจำเลยจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานจะจับกุม จำเลยกับพวกจึงได้เอาเงินของผู้เสียหายไป โดยมีเจตนาทุจริตขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 304 ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์มอบคดีให้เจ้าพนักงานฟ้องร้องแล้ว

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยว่าผู้เสียหายไม่มีอำนาจร้องทุกข์โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

นายสุพรรณจำเลยผู้เดียวฎีกา

ศาลฎีกาประชุมใหญ่มีมติว่า การที่ผู้เสียหายตกลงจะซื้อธนบัตรปลอมจากจำเลยเช่นนี้ เป็นความตกลงที่มีวัตถุประสงค์จะกระทำผิดกฎหมายมิได้เป็นไปโดยความสุจริต จะถือตนว่าเป็นผู้เสียหายโดยชอบด้วยกฎหมายมิได้ เพราะฉะนั้นพนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิที่จะนำคดีอันเนื่องจากคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายเหล่านี้มาว่ากล่าวได้

จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share