คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามรายงานกระบวนพิจารณาซึ่งเป็นวันนัดชี้สองสถาน โจทก์ยื่นต้นฉบับเอกสาร 4 ฉบับ ศาลหมาย จ.1 ถึง จ.4 และได้สอบถามทนายจำเลยถึงคำให้การแล้ว ทนายจำเลยแถลงว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าตามเอกสารหมาย จ.1 และจำเลยได้ลงลายมือชื่อในหนังสือส่งมอบตึกที่เช่าคืนและเลิกสัญญาเช่าตามเอกสารหมาย จ.2 จริง ดังนี้ย่อมฟังข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ให้โจทก์เช่าตึกแถวและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าโดยส่งมอบตึกแถวที่เช่าคืนให้แก่จำเลยเป็นที่เรียบร้อยตามฟ้องโจทก์จริง กรณีเช่นนี้ไม่จำต้องอาศัยพยานเอกสารหมาย จ.1และ จ.2 โจทก์จึงไม่จำต้องชำระค่าอ้างเอกสารดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เช่าตึกแถวเฉพาะชั้นล่างห้องเลขที่20/46-47 จากจำเลยในอัตราค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ระยะเวลาเช่า2 ปี โดยโจทก์ได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้า 60,000 บาท หากโจทก์ไม่ชำระค่าเช่าเดือนใดเดือนหนึ่ง โจทก์ยอมให้จำเลยหักเงินจำนวนดังกล่าวได้ต่อมาโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าและขอรับเงินค่าเช่าล่วงหน้าคืนจากจำเลย แต่จำเลยเพิกเฉยขอให้บังคับจำเลยใช้เงิน 60,683.25 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 60,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาอย่างไร จำเลยอยู่ในฐานะอะไรโจทก์บอกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด จำเลยจึงไม่ต้องคืนเงินค่าเช่าล่วงหน้า โจทก์ได้รับเงินค่าเช่าล่วงหน้าคืนไปแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องคำให้การและสอบข้อเท็จจริงตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2537 เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้จึงงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน60,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2536 จนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 683.25 บาท ตามที่โจทก์ขอ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยเพียงประการเดียวว่า คดีนี้โจทก์เสียค่าอ้างเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 ภายหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว การที่ศาลอุทธรณ์รับฟังพยานเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2ซึ่งโจทก์ส่งอ้างโดยเอกสารดังกล่าวยังไม่ได้ชำระค่าอ้างเอกสารเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2537 ซึ่งเป็นวันนัดชี้สองสถานโจทก์ยื่นต้นฉบับเอกสาร 4 ฉบับ ศาลหมาย จ.1 ถึง จ.4 และได้สอบถามทนายจำเลยถึงคำให้การแล้ว ทนายจำเลยแถลงว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าตามเอกสารหมาย จ.1 และจำเลยได้ลงลายมือชื่อในหนังสือส่งมอบตึกที่เช่าคืนและเลิกสัญญาเช่าตามเอกสารหมาย จ.2 จริง ดังนี้ แสดงว่าจำเลยยอมรับตามฟ้องว่า จำเลยได้ให้โจทก์เช่าตึกแถวและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าโดยได้ส่งมอบตึกแถวที่เช่าคืนให้แก่จำเลยเป็นที่เรียบร้อย ตามฟ้องโจทก์จริง ในกรณีเช่นนี้ ศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ย่อมฟังข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยให้โจทก์เช่าตึกแถวและโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาโดยได้ส่งมอบตึกแถวที่เช่าคืนให้แก่จำเลยแล้วได้โดยไม่จำต้องอาศัยพยานเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 โจทก์จึงไม่จำต้องชำระค่าอ้างเอกสารดังกล่าว
พิพากษายืน

Share