แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องสอดที่ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยโต้แย้งว่าที่พิพาทรายเดียวกันนั้นเป็นของผู้ร้อง ไม่ใช่ของจำเลยดังนี้ต้องตามมาตรา 57 อนุมาตรา (1) ไม่ใช่ตามอนุมาตรา (2) ผู้ร้องสอดมีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความศาลจะยกมาตรา 29 วรรคท้ายมาใช้สั่งไม่อนุญาตโดยให้ไปฟ้องใหม่+สำนวนหนึ่งไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยทำนิติกรรมขายที่ดินให้โจทก์ตามสัญญา ถ้าไม่สามารถปฏิบัติให้คืนราคากับใช้ค่าเสียหายระหว่างยังส่งหมายเรียกให้จำเลยไม่ได้ ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง ๆ ขอเข้าเป็นจำเลยและได้ทำคำให้การยื่นมาด้วยว่าที่ดินเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลย ๆ ไม่มีสิทธิเอาไปขายให้โจทก์ โจทก์คัดค้าน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกันว่า หากได้แยกพิจารณาข้อหาตามฟ้องเดิมและตามคำร้องแล้ว จะสะดวกแก่การพิจารณา อาศัย ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๙ จึงไม่อนุญาตให้ร้องสอด หากผู้ร้องจะคุ้มครองสิทธิของตนก็ให้ฟ้องเป็นอีกสำนวนหนึ่ง
ผู้ร้องสอดฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องมีสิทธิที่จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดตามอนุมาตรา (๑) แห่งมาตรา ๕๗ ไม่ใช่อนุมาตรา (๒) ข้อห้ามตามมาตรา ๕๘ วรรค ๒ ไม่เกี่ยวกับผู้ร้องสอดในคดีนี้ ทั้งคดียังไม่ปรากฎว่าจำเลยให้การประกาใด จะให้บังคับไปฟ้อง+อีกสำนวนหนึ่งโดยอาศัยมาตรา ๒๙ วรรค+ไม่ได้ ผู้ร้องสอดในคดีนี้มีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความ
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเป็นคู่ความในคดีนี้ได้ให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป