แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บาดแผล ดังนี้ คือ 1. ในช่องจมูกแถบซ้ายด้านในรอยขีดหนังขาดยาว 3 ม.ม. และโลหิตออกทางช่องจมูกทั้งสอง 2. ชายโครงด้านหน้าแถบซ้าย รอยผื่นแดงยาว 8ซ.ม. กว้าง 5 ซ.ม. 3. ใต้ลิ้นปี่ รอยผื่นแดงยาว 4 ซ.ม. กว้าง 3 ซ.ม.
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เป็นรอยถูกกระทำแก่ร่างกายถึงแก่บาดเจ็บแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 298, 300จำเลยรับสารภาพตลอดตามฟ้อง
ศาลทหารกรุงเทพฯ พิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 298 ให้จำคุก 2 ปี ลดตามมาตรา 59 คงจำคุก 1 ปี
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 300
ศาลทหารกลางพิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้กระทำการชิงทรัพย์ มีข้อที่จะต้องวินิจฉัยเพียงว่าการที่จำเลยได้ใช้กำลังกายกระทำแก่ผู้เสียหายจะเรียกว่า กระทำให้เกิด บาดเจ็บ ต้องด้วยมาตรา 300 หรือไม่
ปรากฏตามใบชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหาย ซึ่งแพทย์ได้ตรวจว่า
(1) ในช่องจมูกแถบซ้ายด้านใน รอยขีดหนังขาดยาว 3 มิลลิเมตรและมีโลหิตออกทางช่องจมูกทั้งสอง
(2) ชายโครงด้านหน้าแถบซ้าย รอยผื่นแดงยาว 8 เซ็นติเมตรกว้าง 5 เซ็นติเมตร
(3) ใต้ลิ้นปี่ รอยผื่นแดงยาว 4 เซ็นติเมตร กว้าง 3 เซ็นติเมตร
(4) ข้างจมูกแถบซ้าย รอยขีดหนังขาดยาว 3 เซ็นติเมตร
รอยถูกกระทำร้ายเหล่านี้ แสดงว่า เป็นรอยถูกกระทำแก่ร่างกายถึงแก่บาดเจ็บแล้ว เห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์ทำให้เขาบาดเจ็บตามมาตรา 300
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลทหารกลาง ให้จำคุกจำเลย 5 ปีลดกึ่งหนึ่งตามมาตรา 59 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน