คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า มารดาของโจทก์จำเลยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จำเลยและหลาน ดังสำเนาท้ายฟ้องโจทก์ไปขอรับมรดกที่ดินตามรายการข้อ 1 ของพินัยกรรมครึ่งหนึ่งจำเลยร้องคัดค้านเจ้าพนักงานจึงงดการรับมรดกไว้ และสั่งให้โจทก์ฟ้องต่อศาล ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้นเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายการที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน)ทำศพ ตามคำสั่งของผู้ตายแล้ว ดังนี้ แม้รายการข้อ 1ของพินัยกรรมท้ายฟ้องจะว่าที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์จำเลยบุตรจัดการขาย นำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เมื่อตาย แต่เมื่ออ่านประกอบฟ้องก็พอจะได้ความว่ามิใช่กรณีรับมรดกเฉยๆ หากแต่มีการกระทำของโจทก์เป็นการตอบแทนอยู่ ครั้นเมื่อจำเลยให้การ จำเลยมิได้เถียงถึงสิทธิของโจทก์อันจะได้จากพินัยกรรมนี้เลย เป็นแต่เถียงว่าผู้ตายทำพินัยกรรมใหม่แล้วยกเลิกพินัยกรรมที่โจทก์อ้าง ประเด็นในคดีคงมีแต่เพียงว่าพินัยกรรมที่ฝ่ายใดอ้างเป็นพินัยกรรมที่ใช้ได้ ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป จะว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกครึ่งหนึ่ง และพิพากษายกฟ้องเสียโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงต่อไปนั้น ไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์เป็นพี่จำเลย นางผูกมารดาโจทก์จำเลยตายแล้ว ก่อนตายนางผูกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่โจทก์จำเลยและหลาน ดังพินัยกรรมท้ายฟ้อง โจทก์ไปขอรับมรดกตามรายการเลข 1 ในพินัยกรรม คือ ที่ดินรายพิพาทครึ่งหนึ่ง จำเลยได้ร้องคัดค้านว่ามารดาทำพินัยกรรมยกที่ดินนั้นให้จำเลย เจ้าพนักงานจึงงดการรับมรดกไว้ และสั่งให้โจทก์มาฟ้อง ความจริงพินัยกรรมที่จำเลยอ้างนั้นปลอม ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้นเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อน การที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน) ทำศพตามคำสั่งผู้ตายแล้ว ขอให้พิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินรายพิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ฯลฯ

จำเลยให้การว่า นางผูกได้ทำพินัยกรรมธรรมดายกที่ดินนี้ให้จำเลยแต่ผู้เดียว หากโจทก์มีพินัยกรรมจริง ข้อกำหนดในพินัยกรรมข้อ 1 เป็นอันตกไปแล้ว

ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความรับกันว่า ที่พิพาทเป็นมรดกของนางผูกและโจทก์แถลงว่า โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกตามสำเนาพินัยกรรมท้ายฟ้องข้อ 1(1) ศาลสั่งงดชี้สองสถานและงดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าตามสำเนาพินัยกรรมข้อ 1(1) ท้ายฟ้อง โจทก์และจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงขายที่พิพาทและนำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศให้ผู้ตายเท่านั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดก ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ตอนท้ายได้กล่าวไว้ว่า “ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้น เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อน การที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน) ทำศพตามคำสั่งผู้ตายแล้ว” เมื่ออ่านประกอบกับพินัยกรรมข้อ 1(1) ซึ่งว่า “(1) ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 3222 เนื้อที่ ฯลฯ ให้นางสงวน พรมยอด และนางทุเรียน พรมยอด บุตรจัดการขาย นำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เมื่อตาย” ก็เห็นได้ว่ามิใช่กรณีรับมรดกเฉย ๆ หากแต่มีการกระทำของโจทก์เป็นการตอบแทนอยู่ โจทก์ได้แนบสำเนาพินัยกรรมมาท้ายฟ้องด้วยจึงอ่านประกอบฟ้องพอจะได้ความว่าเป็นประการใด เมื่อจำเลยให้การจำเลยมิได้เถียงถึงสิทธิของโจทก์อันจะได้จากพินัยกรรมนี้เลยเป็นแต่เถียงว่าผู้ตายทำพินัยกรรมใหม่แล้ว ยกเลิกพินัยกรรมที่โจทก์อ้าง และที่ดินดังกล่าวตกเป็นสิทธิแก่จำเลยตามพินัยกรรมใหม่ข้อความที่ไม่สู้ชัดแจ้งในฟ้องของโจทก์จึงหมดความสำคัญ และคงมีประเด็นในคดีแต่เพียงว่า พินัยกรรมที่ฝ่ายใดอ้างเป็นพินัยกรรมที่ใช้ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่จึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share