คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7673/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้โดยมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เพียงบางส่วน แต่มิได้แสดงโดยชัดแจ้งในรายละเอียดของข้อเท็จจริงและเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวง เพื่อแสดงว่ามูลหนี้ที่ผู้ร้องได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้นั้นในแต่ละอันดับ ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้เพียงใด และไม่มีรายละเอียดว่าผู้ร้องคำนวณผิดพลาดคลาดเคลื่อนในมูลหนี้อันดับใด อย่างไร เป็นข้อวินิจฉัยที่รวบรัดและเคลือบคลุม อันเป็นการยากที่ผู้ร้องจะมีโอกาสหยั่งทราบถึงเหตุผลและรายละเอียดในคำสั่งและโต้แย้งคัดค้านได้ถูกต้อง การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าผู้ร้องส่งพยานเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว และลูกหนี้เป็นหนี้ผู้ร้องตามจำนวนที่ขอรับชำระหนี้มาและขอให้พิจารณาทบทวนพยานหลักฐานและเอกสารทั้งหมด เพื่อคำนวณรายการหนี้ใหม่ให้ถูกต้องและแก้ไขคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ในส่วนที่ยังขาด รวมตลอดทั้งโต้แย้งในมูลหนี้ภาระค้ำประกันว่าผู้ร้องออกหนังสือค้ำประกันให้แก่ลูกหนี้ไว้ เมื่อถูกเรียกเก็บเงินมาจำต้องจ่ายเงินตามภาระค้ำประกัน จึงชอบที่จะได้รับชำระหนี้ในส่วนนี้ทั้งหมดนั้น เป็นการโต้แย้งตามสภาพที่เปิดช่องให้อยู่ในวิสัยที่พึงกระทำได้แล้ว จึงถือได้ว่าคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเป็นการคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/32 วรรคสาม แล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ โดยตั้งให้นายสุรพงษ์เป็นผู้ทำแผน
ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ ในมูลหนี้เบิกเงินเกินบัญชี เงินกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน เล็ตเตอร์ออฟเครดิต ภาระค้ำประกัน (แอลจี) หนี้ตามสัญญาค้ำประกัน รวมมูลหนี้ ๑๖ รายการ ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามหนังสือสัญญาจำนองที่ดินและเครื่องจักร
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ให้เจ้าหนี้ ลูกหนี้ และผู้ทำแผนตรวจคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการแล้วตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๐/๒๙ ไม่มีผู้โต้แย้งคัดค้านการขอรับชำระหนี้รายนี้
ผู้คัดค้านสอบสวนแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามพยานหลักฐานแต่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้เกินมาเป็นเงิน ๖๙๔,๖๒๔,๖๒๒.๓๐ บาท เนื่องจากคำนวณคลาดเคลื่อน และหนี้อันดับที่ ๑๖ ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานแสดงความเป็นหนี้ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้บางส่วน
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาหลักฐานและเอกสารทั้งหมดของผู้ร้องอีกครั้ง รวมทั้งขอให้คำนวณบัญชีใหม่ทั้งหมดและมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ในส่วนที่ขาดด้วย
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านได้พิจารณาทำคำสั่งจากเอกสารที่ปรากฏในสำนวน และในการพิจารณาทำคำสั่งนั้นผู้คัดค้านได้ส่งให้นักบัญชีคำนวณยอดหนี้แล้ว… ที่ผู้ร้องขอให้ได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามหนังสือสัญญาจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๐๒๙ นั้น ไม่ปรากฏเอกสารหนังสือสัญญาจำนองแต่อย่างใด ส่วนที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้มีประกันตามหนังสือสัญญาจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๐๘๗ นั้น ปรากฏว่าที่ดินดังกล่าวมีบุคคลอื่นเป็นผู้จำนอง ผู้ร้องจึงมิใช่เจ้าหนี้มีประกันในส่วนนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างผู้คัดค้านดำเนินการเพิกถอนคำสั่งเดิม และส่งสำนวนให้ส่วนจัดกิจการและทรัพย์สิน สำนักงานฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ตรวจสอบยอดหนี้อีกครั้งหนึ่ง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านและกำหนดไต่สวน ครั้นถึงวันนัดศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องคัดค้านของผู้ร้องมิใช่เป็นการคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อขอให้ศาลสั่งแก้ไขตามนัยแห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๐/๓๒ วรรคสาม จึงให้เพิกถอนคำสั่งรับคำร้องคัดค้าน กระบวนพิจารณาที่กระทำมา การนัดไต่สวน และมีคำสั่งใหม่เป็นไม่รับคำร้องคัดค้าน คืนค่าคำร้องแก่ผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายพิจารณาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า คำร้องคัดค้านของผู้ร้องเป็นการคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๐/๓๒ วรรคสาม หรือไม่ เห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดลำดับขั้นตอนในการขอรับชำระหนี้ไว้ โดยจะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสั่งคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าว หลังจากนั้นผู้มีส่วนได้เสียจึงอาจยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลได้ เช่นนี้หากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เพียงบางส่วนหรือยกคำขอรับชำระหนี้แล้ว จะต้องแสดงไว้โดยชัดแจ้งในคำสั่งซึ่งเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในการวินิจฉัยถึงจำนวนหนี้ที่ไม่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ดังกล่าวนั้น และหากว่ามีการขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้หลายอันดับ จะต้องมีรายละเอียดโดยชัดแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนในมูลหนี้ใดจำนวนเท่าใดด้วย ทั้งนี้เพื่อผู้มีส่วนได้เสียจะได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลได้อย่างถูกต้องและตรงประเด็น ในคดีนี้ศาลได้พิจารณาคำสั่งของผู้คัดค้านในเรื่องขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการดังกล่าวซึ่งวินิจฉัยชี้ขาดคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องแต่เพียงว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามพยานหลักฐาน แต่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เกินมาเป็นเงิน ๖๙๔,๖๒๔,๖๒๒.๓๐ บาท เนื่องจากคำนวณคลาดเคลื่อนและหนี้อันดับที่ ๑๖ ซึ่งเป็นหนี้ตามสัญญาค้ำประกันบริษัทปัญจพลพัลพ์อินดัสตรี้ จำกัด นั้น ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานแสดงความเป็นหนี้ที่บริษัทปัญจพลเปเปอร์อินดัสตรี้ จำกัด ลูกหนี้ในคดีนี้ต้องรับผิดแต่อย่างใด ส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสียนั้น คำสั่งของผู้คัดค้านดังกล่าวอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้บางส่วน แต่มิได้แสดงโดยชัดแจ้งในรายละเอียดของข้อเท็จจริงและเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวงเพื่อแสดงว่ามูลหนี้ที่ผู้ร้องได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้นั้นในแต่ละอันดับผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้เพียงใด และที่คำสั่งระบุว่าผู้ร้องคำนวณผิดพลาดคลาดเคลื่อนก็ไม่มีรายละเอียดว่าคำนวณผิดพลาดในมูลหนี้อันดับใด อย่างไร เป็นข้อวินิจฉัยที่รวบรัดและเคลือบคลุมอันเป็นการยากที่ผู้ร้องจะได้มีโอกาสหยั่งทราบถึงเหตุผลและรายละเอียดในการมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้เสียจำนวน ๖๙๔,๖๒๔,๖๒๒.๓๐ บาท ของผู้คัดค้านและโต้แย้งคัดค้านได้ถูกต้อง การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของผู้คัดค้านดังกล่าวว่า ผู้ร้องส่งพยานเอกสารถูกต้องครบถ้วนแล้ว และลูกหนี้เป็นหนี้ผู้ร้องตามจำนวนที่ขอรับชำระหนี้มา และขอให้พิจารณาทบทวนพยานหลักฐานและเอกสารทั้งหมดเพื่อคำนวณรายการหนี้ใหม่ให้ถูกต้องและแก้ไขคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ในส่วนที่ยังขาด รวมตลอดทั้งโต้แย้งในมูลหนี้ภาระค้ำประกันที่ผู้ร้องได้ออกหนังสือค้ำประกันแก่ธนาคารต่างประเทศให้แก่บริษัทลูกหนี้ว่า เมื่อธนาคารต่างประเทศหรือบริษัทที่ผู้ร้องค้ำประกันไว้เรียกเก็บเงินมา ผู้ร้องต้องจ่ายเงินตามภาระค้ำประกัน ผู้ร้องจึงมีสิทธิจะได้รับชำระหนี้คืนจากลูกหนี้นับแต่วันที่ได้จ่ายเงินไปแล้ว จึงชอบที่ผู้ร้องจะได้รับชำระหนี้ในส่วนนี้ทั้งหมดนั้น เป็นการโต้แย้งตามสภาพที่เปิดช่องให้อยู่ในวิสัยจะพึงกระทำได้แล้ว จึงถือได้ว่าคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเป็นการคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๐/๓๒ วรรคสาม แล้ว ซึ่งชอบที่ศาลจะรับคำร้องคัดค้านของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป
พิพากษากลับ ให้รับคำร้องคัดค้านของผู้ร้อง ให้ศาลล้มละลายกลางทำการไต่สวนและมีคำสั่งตามรูปคดีต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share