คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7664/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าซื้อขายข้าวเปลือกต้องรู้เรื่องเครื่องชั่งเป็นอย่างดีการที่จำเลยนำเครื่องชั่งของกลางไปซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ซึ่งเป็นเครื่องชั่งที่มีการแก้ไขดัดแปลงโดยถอดนอตเดิมออกแล้วใช้นอตอื่นใส่แทนในลักษณะหลวมเป็นผลให้ผู้ซื้อจะได้สินค้าที่มีน้ำหนักมากกว่าที่เครื่องชั่งแสดง เชื่อว่าจำเลยมีเจตนาดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่งของกลางเพื่อเอาเปรียบในทางการค้า
ระหว่างการพิจารณาของศาลมี พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดพ.ศ. 2542 ใช้บังคับให้ยกเลิก พระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด เดิมทุกฉบับตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติความผิดฐานกระทำการใด ๆ เพื่อให้เครื่องชั่งที่มีการให้คำรับรองแล้วแสดงน้ำหนักผิดไปจากที่ได้รับการตรวจสอบความเที่ยงไว้ในมาตรา 75 และการใช้เครื่องชั่งโดยรู้ว่าเป็นเครื่องชั่งที่ถูกแก้เปลี่ยนไว้ในมาตรา 76 และมีระวางโทษเป็นคุณกว่าโทษตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 32 วรรคหนึ่งและวรรคสองตามลำดับ จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคหนึ่ง
ส่วนการที่จำเลยมีเครื่องชั่งซึ่งไม่ถูกต้องไว้ แม้จะเป็นเครื่องชั่งที่มีการแก้ไขลดเครื่องชั่งที่ได้ทำการให้คำรับรองจากทางราชการก็ตามแต่ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มิได้บัญญัติความผิดในการมีเครื่องชั่งที่มีการแก้ไขลดดังกล่าวให้เป็นความผิดไว้โดยเฉพาะ จำเลยจึงมีความผิดฐานมีเครื่องชั่งซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ไว้เพื่อใช้ในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นและในพาณิชยกิจของจำเลยตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 31เท่านั้น ดังนั้น แม้ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542จะบัญญัติให้การมีเครื่องชั่งที่มีการให้คำรับรองแล้วแสดงน้ำหนักผิดไปจากที่ได้ตรวจสอบความเที่ยงเป็นความผิดตามมาตรา 76 ก็ตามก็ไม่อาจลงโทษได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2
สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466มาตรา 31 นั้น ได้มีพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 บัญญัติความผิดฐานมีเครื่องชั่งโดยรู้ว่าเครื่องชั่งนั้นมีความเที่ยงผิดอัตราไว้ในมาตรา 79และมีระวางโทษเป็นคุณกว่าโทษตามมาตรา 31 จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2539 เวลากลางวันถึงวันที่ 18ธันวาคม 2540 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยโดยเจตนาลดเครื่องชั่งชนิดที่ 4 แบบตุ้มถ่วง พิกัดกำลัง 500 กิโลกรัมซึ่งเคยผ่านการตรวจสอบรับรองจากทางราชการมาแล้ว โดยการถอดนอตยึดแกนล้อเดิมออกแล้วใช้นอตอื่นใส่แทนในลักษณะหลวมใช้มือเปล่าหมุนออกได้ง่าย เพื่อสะดวกในการถอดแก้ไขให้คานแกนล้อเลื่อนไปมาได้เพื่อให้แกนล้อหมุนคานรับน้ำหนักใต้แท่นชั่ง อันทำให้น้ำหนักในขณะชั่งไม่ตรงตามความจริง ทำให้ผู้ชั่งได้เปรียบผู้ขายเวลาชั่งสินค้าซื้อขาย และภายหลังจำเลยได้กระทำผิดดังกล่าวจนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2540เวลากลางวันต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยมีเครื่องชั่งที่จำเลยกระทำการลดเครื่องชั่งให้ผิดอัตราดังกล่าวไว้ในครอบครอง เพื่อใช้ในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นและในพาณิชยกิจใด ๆ เพื่อเอาเปรียบในการค้าโดยฝ่าฝืนกฎหมายและเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2540 เวลากลางวัน จำเลยได้ใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราดังกล่าวชั่งข้าวเปลือกที่จำเลยรับซื้อจากชาวนา อันเป็นกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นและเป็นพาณิชยกิจ ซึ่งทำให้จำเลยได้เปรียบในทางการค้าเจ้าพนักงานยึดเครื่องชั่งที่จำเลยได้กระทำผิด กับยึดลูกตุ้มเหล็กขนาดต่าง ๆ3 ลูก ลูกถ่วง 1 ลูกที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดเป็นของกลาง เหตุเกิดที่ตำบลนารุ่ง อำเภอศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ตำบลใดไม่ปรากฏชัดและตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศีรสะเกษ เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 31, 32, 38ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91, 270 ริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 31, 32 วรรคสอง, 38ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานดัดแปลงแก้ไขลดเครื่องชั่งจำคุก 3 ปี ฐานมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้า เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี และฐานใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตราลงโทษตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสี่คงจำคุก 6 ปี การกระทำของจำเลยเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของชาวนาที่ต้องตรากตรำต่อการประกอบอาชีพกสิกรรม จึงไม่สมควรรอการลงโทษ ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดโต้แย้งว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องเจ้าพนักงานตำรวจได้จับกุมจำเลยกับพวก พร้อมยึดเครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับคำรับรองจากทางราชการแล้ว กับลูกตุ้มเหล็ก 3 ลูก และลูกถ่วง 1 ลูก เป็นของกลางคดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โจทก์มีร้อยตำรวจตรีคมกริช ขวัญใจสกุล และสิบตำรวจโทชาติชาย ร่วมบุญ ผู้จับกุมเป็นพยานเบิกความว่าได้ร่วมกันยึดเครื่องชั่งแบบตุ้มถ่วงชนิดที่ 4 ซึ่งอยู่บนรถยนต์บรรทุกหกล้อหมายเลขทะเบียน 80-8662สุรินทร์ โดยมีจำเลยเป็นผู้ขับ นอกจากนี้บนรถยนต์ยังมีข้าวเปลือก 31 กระสอบจำเลยรับว่าเป็นเจ้าของรถยนต์และเครื่องชั่งของกลาง นายสนอง ธีระบุตรรับว่าเป็นเจ้าของข้าวเปลือกจะเอาไปขายที่จังหวัดสุรินทร์ ร้อยตำรวจโทคมกริชได้ส่งเครื่องชั่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อทราบว่าเป็นเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้าหรือไม่ กับมีนายอนันต์ สันทัดการ เจ้าพนักงานสำนักงานทะเบียนการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ตรวจพิสูจน์เบิกความว่าเครื่องชั่งของกลางมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เมื่อใช้ชั่งน้ำหนักแล้วผู้ซื้อจะได้เปรียบผู้ขาย เพราะผู้ซื้อจะได้ของที่ซื้อมากกว่าความเป็นจริง ปรากฏตามรายงานการตรวจพิสูจน์ เห็นว่าในขณะที่เจ้าพนักงานตำรวจทำการตรวจยึดเครื่องชั่งของกลางได้พบสมุดซื้อขายข้าวของจำเลยจำนวน 1 เล่ม ด้วย ซึ่งจำเลยก็ยอมรับว่าได้ไปซื้อข้าวที่บ้านกล้วยกว้างอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ จริง นอกจากนี้ในบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของผู้ต้องหา จำเลยยังรับว่าเครื่องชั่งของกลางเป็นของจำเลยมีไว้เพื่อชั่งน้ำหนักรับซื้อข้าว โดยใช้เครื่องชั่งของกลางในการชั่งรับซื้อข้าวมาโดยตลอด จำเลยเป็นพ่อค้าซื้อขายข้าวเปลือกต้องมีเครื่องชั่ง จึงเชื่อว่าจำเลยต้องรู้เรื่องเครื่องชั่งเป็นอย่างดี อีกทั้งได้ความว่าจำเลยใช้เครื่องชั่งดังกล่าวเพื่อชั่งรับซื้อข้าวมาตลอดไม่ปรากฏว่ามีผู้อื่นมาใช้เครื่องชั่งดังกล่าวนอกจากตัวจำเลยเอง เชื่อว่าจำเลยดัดแปลงเครื่องชั่งด้วยการใส่นอตใหม่ การที่จำเลยใส่นอตใหม่ดัดแปลงเครื่องชั่งของกลางโดยไม่ทราบว่าเป็นการเอาเปรียบผู้ขายจึงขาดเหตุผล ดังนั้น เมื่อฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบกับในขณะที่ตรวจยึดเครื่องชั่งของกลางบนรถยนต์มีข้าวเปลือกจำนวน 31 กระสอบ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยได้นำเครื่องชั่งของกลางไปซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาแล้วนำไปขายเอากำไรที่จังหวัดสุรินทร์การที่ผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่า เครื่องชั่งของกลางมีการแก้ไขดัดแปลงโดยถอดนอตเดิมออกแล้วใช้นอตอื่นใส่แทนในลักษณะหลวมสามารถใช้มือเปล่าหมุนออกได้ง่ายเพื่อสะดวกในการแก้ไขให้คานแกนล้อเลื่อนไปมาได้ทำให้แกนล้อหมุนคานรับน้ำหนักใต้แท่นชั่งรับน้ำหนักได้ไม่ตรงต่อความเป็นจริงโดยผู้ซื้อจะได้สินค้าที่มีน้ำหนักมากกว่าที่เครื่องชั่งแสดง พยานโจทก์ดังกล่าวเป็นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการไปตามหน้าที่ และไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนจึงไม่มีเหตุให้ต้องระแวงสงสัยว่าจะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลยให้ต้องรับโทษ น่าเชื่อว่าจำเลยมีเจตนาดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่งของกลางเพื่อเอาเปรียบในทางการค้า ส่วนที่จำเลยนำสืบต่อสู้คดีว่าจำเลยไม่มีความรู้ในการดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่งก็ดี และจำเลยมักจะนำเครื่องชั่งไปไว้หลังรถยนต์ซึ่งอาจจะมีการกระแทกจนนอตของเครื่องชั่งหลวมและหลุดได้ก็ดีนั้น เห็นว่าข้อนำสืบดังกล่าวเป็นการนำสืบลอย ๆ ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2542 ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดพ.ศ. 2542 ใช้บังคับให้ยกเลิกพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด เดิมทุกฉบับตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติความผิดฐานกระทำการใด ๆ เพื่อให้เครื่องชั่งที่มีการให้คำรับรองแล้วแสดงน้ำหนักผิดไปจากที่ได้รับการตรวจสอบความเที่ยงไว้ในมาตรา 75 และมีระวางโทษเป็นคุณกว่าโทษตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 32วรรคหนึ่ง การกระทำความผิดของจำเลยฐานดัดแปลงแก้ไขลดเครื่องชั่งจึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3วรรคหนึ่ง กระทงหนึ่ง การที่จำเลยใช้เครื่องชั่งโดยรู้ว่าเป็นเครื่องชั่งที่ถูกแก้เปลี่ยนซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 32วรรคสอง นั้น ปรากฏว่าตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542มาตรา 76 มีระวางโทษเป็นคุณกว่าโทษตามมาตรา 32 วรรคสอง จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคหนึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270ด้วยอีกกระทงหนึ่ง ส่วนการที่จำเลยมีเครื่องชั่งซึ่งไม่ถูกต้องดังกล่าวไว้ แม้จะเป็นเครื่องชั่งที่มีการแก้ไขลดเครื่องชั่งที่ได้ทำการให้คำรับรองจากทางราชการก็ตาม แต่ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466มิได้บัญญัติความผิดในการมีเครื่องชั่งที่ได้มีการแก้ไขลดดังกล่าวให้เป็นความผิดไว้โดยเฉพาะ จำเลยจึงคงมีความผิดฐานมีเครื่องชั่งซึ่งไม่ถูกต้องตามความประสงค์ไว้ เพื่อใช้ในกิจการต่อเนื่องกับผู้อื่นและในพาณิชยกิจของจำเลยตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 31เท่านั้น ดังนั้น แม้ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542จะบัญญัติให้การมีเครื่องชั่งที่มีการให้คำรับรองแล้วแสดงน้ำหนักผิดไปจากที่ได้ตรวจสอบความเที่ยงเป็นความผิดตามมาตรา 76 ก็ตาม แต่เมื่อขณะกระทำความผิดกฎหมายมิได้บัญญัติให้การมีเครื่องชั่งดังกล่าวเป็นความผิดเกินไปกว่าความผิดตามมาตรา 31 ดังกล่าวนั้น กรณีจึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 76 ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง อนึ่งความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2466 มาตรา 31 นั้นได้มีพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด พ.ศ. 2542 บัญญัติความผิดฐานมีเครื่องชั่งโดยรู้ว่าเครื่องชั่งนั้นมีความเที่ยงผิดอัตราไว้ในมาตรา 79 และมีระวางโทษเป็นคุณกว่าโทษตามมาตรา 31 จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคหนึ่ง การกระทำดังกล่าวยังเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 270 ด้วย”

พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวง วัด พ.ศ. 2542 มาตรา 75, 76, 79 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 270 ฐานดัดแปลงแก้ไขลดเครื่องชั่งจำคุก 1 ปี ฐานมีเครื่องชั่งโดยรู้ว่าเครื่องชั่งนั้นมีความเที่ยงผิดอัตรา เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี และฐานใช้เครื่องชั่งที่ผิดอัตรา เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 270 ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด มาตรา 76 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสี่คงจำคุก 3 ปี ริบของกลาง

Share