แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายด้วยสำหรับข้อเท็จจริงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วนั้น แม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยไปก็ไม่มีประโยชน์ หากจะฟังว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์ เพราะจะเอาความผิดแก่จำเลยมิได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ เพราะไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเบิกความเท็จและแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 181, 167, 90, 91
ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ตามฟ้อง ส่วนข้อกฎหมายก็เห็นว่าฟ้องขาดองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์และจำเลยเบิกความเท็จขอให้กลับคำพิพากษาศาลล่าง
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายด้วย สำหรับข้อเท็จจริงเป็นอันเสร็จเด็ดขาดแล้ว ฎีกาของโจทก์ในข้อกฎหมายที่ว่า ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วนั้น ศาลฎีกาจะวินิจฉัยไปก็ไม่มีประโยชน์ แม้หากจะฟังว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์ ก็ไม่ทำให้โจทก์ได้รับประโยชน์ในคดีนี้ เพราะจะเอาความผิดแก่จำเลยไม่ได้ เพราะไม่เป็นสารแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
จึงพิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย
