คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7626/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทแทน บ. การที่โจทก์ขอออกใบจองและต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ โดย บ. คัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวก็ดี การที่โจทก์คัดค้านการที่ บ. ขอเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ก็ดี ล้วนแต่ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่ดินพิพาทโดยบอกกล่าวไปยัง บ. ว่าโจทก์ไม่มีเจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทไว้แทน บ. อีกต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 361 ตำบลบ้านมุง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องที่พิพาทและเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 361 ตำบลบ้านมุง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ของนางบุญช่วย
จำเลยให้การและฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องและเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1338 ของโจทก์ ขับไล่โจทก์และบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์เป็นการโต้แย้งว่าที่ดินเป็นของโจทก์ เป็นการแย่งการครอบครองนับแต่วันที่จำเลยทราบเรื่อง เป็นเวลาเกิน 1 ปี ฟ้องแย้งขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1338 ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 361 ตำบลบ้านมุง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ของนางบุญช่วย ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยกฟ้องแย้ง ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ กำหนดค่าทนายความ 1,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1338 ตำบลเนินมะปราง (บ้านมุง) อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ให้โจทก์และบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยกำหนดค่าทนายความรวม 4,000 บาท
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นได้รับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาท โดยอาศัยสิทธิของนางบุญช่วย เป็นการยึดถือที่ดินพิพาทแทนนางบุญช่วย ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงข้อเดียวว่า จำเลยฟ้องคดีเพื่อเอาคืนการครอบครองภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของนางบุญช่วยเป็นการครอบครองแทน การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานที่ดินออกใบจองและต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2527 ต่อมานางบุญช่วยได้คัดค้านการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ว่า นางบุญช่วยไม่ทราบว่าโจทก์ขอออกใบจองและหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเหตุที่ไม่คัดค้านเพราะไม่ทราบและถือว่าให้โจทก์ดูแลแทนอยู่ กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทโดยบอกกล่าวไปยังนายบุญช่วยว่าตนไม่มีเจตนาที่จะยึดถือที่พิพาทไว้แทนนางบุญช่วยอีกต่อไปดังที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 1381 ส่วนข้อที่โจทก์คัดค้านการที่นางบุญช่วยขอเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ ที่ว่าโจทก์ได้บุกเบิกแผ้วถางจากที่ดินรกร้างว่างเปล่าจนเป็นที่นาตั้งแต่ ปี 2520 ต่อมาได้ขอจับจองที่ดินตามโครงการจัดที่ดินแปลงเล็กของอำเภอเนินมะปรางเมื่อ ปี 2526 และขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โจทก์ไม่เคยรู้จักนางบุญช่วยไม่เคยเห็นนางบุญช่วยหรือบริวารเข้าทำประโยชน์หรือเกี่ยวข้องในที่ดินแปลงนั้น เห็นว่า เป็นข้อที่โจทก์ให้ถ้อยคำต่อนายอำเภอเนินมะปรางเพื่อคัดค้านการที่นางบุญช่วยขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ มิใช่การแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือครอบครองที่พิพาทไปยังนางบุญช่วยผู้ครอบครองที่ดิน และทางพิจารณาที่โจทก์นำสืบก็ไม่ได้ยืนยันว่า โจทก์ได้แจ้งข้อคัดค้านให้นางบุญช่วยหรือจำเลยทราบแล้ว จำเลยเองก็นำสืบปฏิเสธว่ายังไม่ทราบข้อคัดค้านของโจทก์ จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์แสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะการยึดถือไปยังนางบุญช่วยหรือจำเลย ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยเบิกความตอบคำถามค้านของทนายว่าเป็นเอกสารที่ทางโจทก์ไปคัดค้านคำร้องของนางบุญช่วยมารดาข้าว่าไม่เป็นความจริง เท่ากับทราบการโต้แย้งของโจทก์ตั้งแต่ปี 2529 นั้น เห็นว่า เป็นเพียงถ้อยคำที่จำเลยเบิกความตามเอกสารเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะการยึดถือไปให้นางบุญช่วยทราบแล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะฟังว่าหลังจากนั้นโจทก์ได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตลอดมาก็เป็นการครอบครองแทนนางบุญช่วย จำเลยจึงมีสิทธิฟ้องแย้งขับไล่โจทก์และบริวารออกจากที่ดินพิพาทได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าขณะที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1338 นั้น โจทก์มิใช่ผู้ครอบครองที่ดิน การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยในฐานะทายาทผู้ครอบครองที่ดินพิพาท จึงฟ้องแย้งขอให้เพิกถอนการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1338 ได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share