คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในขณะเมาสุรา จำเลยแทงผู้เสียหาย 5 แผลแต่ที่ลึกทะลุภายใน 3 แผล คือ ที่ชายโครงแถบซ้ายยาว 2 เซนติเมตรครึ่ง กว้างครึ่งเซนติเมตรแผลบริเวณหน้าอกกว้างยาวเท่ากันและที่หน้าท้องแถบขวา แผลยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตรอันเป็นแผลที่อยู่ในบริเวณหุ้มห่ออวัยวะภายในทั้งสิ้นมีดที่ใช้แทง ใบมีดยาว 6 นิ้ว กว้าง 4 เซนติเมตร แทงในระยะกระชั้นชิดติดกันอย่างเคียดแค้นแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คดีที่มีโทษจำคุกสูงกว่า 10 ปี เมื่อเริ่มพิจารณาศาลสอบจำเลยเรื่องทนายความจำเลยแถลงว่าจะหาทนายเองศาลถามคำให้การจำเลยให้การปฏิเสธ จำเลยตั้งทนายเมื่อเริ่มสืบพยานโจทก์ แม้ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาเช่นนั้นก็ตามก็ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา208
พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาสอบสวนจำเลยในชั้นแรกฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายต่อมาแจ้งข้อหาใหม่เป็นพยายามฆ่าผู้เสียหายดังนี้ ย่อมทำได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80

ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า ในขณะเมาสุรา จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายที่ชายโครงแถบซ้ายยาว 2 เศษ 1 ส่วน 2 เซนติเมตร กว้าง 1 ส่วน 2 เซนติเมตร 1 แผล ที่หน้าอก บาดแผลยาวและกว้างเท่ากันอีก 1 แผลและที่หน้าท้องแถบขวา 1 แผล ยาว 3 เซนติเมตรกว้าง 1 เซนติเมตร แผลทั้งสามลึกทะลุภายใน และยังมีแผลที่ข้อศอกยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึก 1 ส่วน 2 เซนติเมตรอีกหนึ่งแผล กับแผลยาว 2 เศษ 1 ส่วน 2 เซนติเมตร ลึก 1 ส่วน 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ที่บริเวณคางอีก 1 แผล และวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าคงมีแต่เจตนาทำร้ายร่างกาย จึงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ริบมีดของกลาง

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลชั้นต้น และฟังต่อไปว่ามีดที่ใช้แทงยาวทั้งตัวและด้าม 10 นิ้ว กว้าง 4 เซนติเมตร และวินิจฉัยว่าบาดแผลดังกล่าวและขนาดอาวุธที่ใช้อาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย พิพากษาแก้ศาลชั้นต้น ให้ลงโทษตามฟ้อง

จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ แต่ฟังว่า เฉพาะใบมีดของกลางยาว 6 นิ้ว กว้าง 4 เซนติเมตร ด้ามยาว 4 นิ้ว และเห็นว่าจำเลยแทงหลายที ในระยะกระชั้นชิดติดกันอย่างเคียดแค้น ส่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

ที่จำเลยฎีกาว่า คดีนี้มีโทษจำคุกสูงกว่า 10 ปี และศาลสอบถาม คำให้การจำเลยก่อนแต่งทนายนั้น ได้ความว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ทั้งจำเลยได้มีทนายตั้งแต่เริ่มสืบพยาน จำเลยไม่เสียเปรียบไม่จำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208

ที่จำเลยฎีกาว่าชั้นแรกพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาต่อจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย ต่อมากลับเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฆ่าคน ศาลฎีกาเห็นว่าพนักงานสอบสวนชอบที่จะทำได้

พิพากษายืน

Share