แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาปฏิเสธคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองของผู้ร้องว่าเคลือบคลุม แต่โจทก์ก็ไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าคำร้องส่วนไหนเคลือบคลุม เคลือบคลุมอย่างไร จึงไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย แม้ศาลล่างจะวินิจฉัยให้ก็เป็นการไม่ชอบ และถือว่าไม่ใช่ประเด็นที่ว่ากล่าวมาแล้วโดยชอบในศาลล่าง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลประเภทกองทุนรวมตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ผู้ร้องจึงต้องมีผู้จัดการกองทุนเพื่อดำเนินการต่างๆ แทน ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 124 วรรคสอง เมื่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ว. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินกิจการของผู้ร้องจึงมีอำนาจดำเนินการต่างๆ แทนผู้ร้อง
คำร้องขอรับชำระหนี้จำนองมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่าผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ในคดีที่มีการบังคับคดีในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิหรือไม่ ฎีกาของโจทก์ในประเด็นเรื่องดอกเบี้ยที่ว่าผู้ร้องมีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าไร จึงไม่เป็นสาระที่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยไม่ชำระหนี้โจทก์ขอออกหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 145293 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นของจำเลย เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 145293 ที่โจทก์นำยึด ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทรัพย์ดังกล่าวก่อนเจ้าหนี้รายอื่น หากโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีต่อไป ผู้ร้องขอสวมสิทธิในการบังคับคดีแทนโจทก์
โจทก์ยื่นคัดค้านว่า คำร้องขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องเคลือบคลุมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด ไม่มีอำนาจดำเนินการต่างๆ แทนผู้ร้อง ผู้ร้องไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจำนวน 8,816,616.42 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 6,000,000 บาท นับแต่วันที่ 1 กันยายน 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จจากเงินที่ขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 145293 ตำบลสวนหลวง (คลองประเวศฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น หากโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดี ให้ผู้ร้องเข้าสวมสิทธิในการบังคับคดีต่อไป
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความไม่ได้โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า ผู้ร้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภทกองทุนรวม ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ที่พิพากษาให้จำเลยกับพวกร่วมกันชำระเงินจำนวน 8,816,616.42 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 6,000,000 บาท นับแต่วันที่ 1 กันยายน 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยกับพวกไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 145293 ตำบลสวนหลวง (คลองประเวศฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดชำระหนี้ ถ้าไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยกับพวกออกขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบ สำหรับที่โจทก์ฎีกาว่าคำร้องขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องเคลือบคลุมนั้น เห็นว่า โจทก์ปฏิเสธว่าคำร้องขอรับชำระหนี้จำนองของผู้ร้องเคลือบคลุม แต่โจทก์ก็ไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าคำร้องส่วนไหนเคลือบคลุม เคลือบคลุมอย่างไร จึงไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย แม้ศาลล่างทั้งสองจะวินิจฉัยให้ก็ไม่เป็นการชอบและถือว่าประเด็นเรื่องคำร้องเคลือบคลุมไม่ใช่ประเด็นที่ว่ากล่าวมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์เพียงประการเดียวว่าบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด มีอำนาจกระทำการแทนผู้ร้องหรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลประเภทกองทุนรวมตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ผู้ร้องจึงต้องมีผู้จัดการกองทุนเพื่อดำเนินการต่างๆ แทน ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 124 วรรคสอง เมื่อได้ความจากคำเบิกความของพยานผู้ร้องปากนายทศพร สุนทรสีมะ ที่เบิกความประกอบสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมาย ร.1 ว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินกิจการของผู้ร้อง โดยโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามที่ผู้ร้องนำสืบ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด จึงมีอำนาจดำเนินการต่างๆ แทนผู้ร้องส่วนที่โจทก์อ้างว่าบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัดไม่มีวัตถุประสงค์ในการจัดการกองทุนรวม จึงไม่มีอำนาจดำเนินการแทนผู้ร้องนั้น ก็ได้ความจากสำเนาหนังสือรับรองเอกสารหมาย ร.2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัดมีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการจัดการลงทุน ซึ่งหมายรวมถึงการจัดการกองทุนรวมด้วย ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้น ส่วนที่โจทก์ฎีกาในทำนองว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปีนั้น เห็นว่า ในคดีร้องขอรับชำระหนี้จำนองมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่า ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ในคดีนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิหรือไม่ ฎีกาของโจทก์ในประเด็นเรื่องดอกเบี้ยจึงไม่เป็นสาระที่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รับวินิจฉัยในประเด็นนี้จึงชอบแล้ว
อนึ่ง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมนั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและในชั้นฎีกาให้เป็นพับ.