แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านหรือข้อเรียกร้องแย้งของผู้ร้องซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้คัดค้านในชั้นอนุญาโตตุลาการ เป็นกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการใช้ดุลพินิจตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 25 วรรคสอง ที่ให้อำนาจคณะอนุญาโตตุลาการดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ได้ตามที่เห็นสมควรในเมื่อไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายอนุญาโตตุลาการนั้นบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งเมื่อคณะอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งดังกล่าวแล้วคู่พิพาทจะใช้สิทธิทางศาลมายื่นคำร้องขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ก็ต้องมีบทบัญญัติในพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการฯ ให้สิทธิคู่พิพาทยื่นคำร้องขอได้ เมื่อไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการฯ ให้สิทธิคู่พิพาทยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับกรณีนี้ ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้มีคำสั่งให้คณะอนุญาโตตุลาการรับคำคัดค้านและข้อเรียกร้องแย้งของตน และหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการในกรณีนี้ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้อนุญาโตตุลาการทั้งสามคนรับคำคัดค้านและข้อเรียกร้องแย้งของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 28 มกราคม 2547 และสั่งให้อนุญาโตตุลาการทั้งสามคนหยุดดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องคัดค้านอนุญาโตตุลาการทั้งสามคนต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการทั้งสามคน ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 20 วรรคสอง โดยอ้างเหตุว่าบุคคลทั้งสามขาดความเป็นกลาง ขาดความเป็นอิสระ ไม่มีคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการ และไม่ให้คู่พิพาทได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันมาแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ กค. 170/2547 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลดังกล่าว ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคดีนี้ขอให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้คณะอนุญาโตตุลาการรับวินิจฉัยคำคัดค้านและข้อเรียกร้องแย้งของตนในการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ อันเป็นวิธีพิจารณาชั้นอนุญาโตตุลาการตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 25 ซึ่งมิใช่เป็นการยื่นคำร้องคัดค้านอนุญาโตตุลาการโดยตรงตามมาตรา 20 วรรคสอง การที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านและข้อเรียกร้องแย้งของผู้ร้องซึ่งอยู่ในฐานะเป็นผู้คัดค้านในชั้นอนุญาโตตุลาการดังกล่าว เป็นกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการใช้ดุลพินิจตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 25 วรรคสอง ที่ให้อำนาจคณะอนุญาโตตุลาการในการดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ได้ตามที่เห็นสมควรในเมื่อไม่มีบทบัญญัติใดในกฎหมายอนุญาโตตุลาการนั้นบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ซึ่งเมื่อคณะอนุญาโตตุลาการมีคำสั่งดังกล่าวแล้วคู่พิพาทจะใช้สิทธิทางศาลมายื่นคำร้องขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ ก็ต้องมีบทบัญญัติในพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 ให้อำนาจไว้ เมื่อไม่มีบทบัญญัติใดในพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการฯ ให้สิทธิคู่พิพาทยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับกรณีนี้ ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้มีคำสั่งให้คณะอนุญาโตตุลาการรับคำคัดค้านและข้อเรียกร้องแย้งของตน และหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการในกรณีนี้ได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกคำร้องของผู้ร้องนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.