แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในเรื่องการประมูลผูกขาดทำประมง มีกฎกระทรวงเกษตรฯ วางระเบียบว่าเมื่อชี้ขาดให้ผู้ใดได้รับประมูลแล้ว ก็ให้เรียกผู้นั้นมาชำระเงินและดำเนินการออกประทานบัตรตามแบบพิมพ์ ปรากฏว่าจำเลยประมูลได้และได้วางเงินมัดจำไว้10% แล้วจำเลยไม่มาทำสัญญาตามแบบพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกประทานบัตรให้ถ้าหากเจ้าหน้าที่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประมงตามที่ประมูลได้นั้นและจำเลยเข้าทำ ก็ถือว่ามีสัญญาต่อกันแล้วการไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ไม่ได้ทำให้สัญญาเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ออกประกาศว่าประมูลการผูกขาดทำประมงโป๊ะน้ำตื้น และจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ในราคา 13,000 บาท จำเลยวางเงินมัดจำไว้ร้อยละ 10 และจำเลยมีหน้าที่ต้องมารับประทานบัตรภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ประมูลได้เป็นต้นมาจำเลยได้เข้าทำการประมงในที่ประมูลจนครบกำหนดเวลา แต่จำเลยไม่ชำระเงินประมูลที่ยังค้างขอให้บังคับจำเลยชำระ
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำประมงในที่ผูกขาด จำเลยได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์แล้ว และโจทก์มีสิทธิเพียงริบเงินมัดจำ แล้วยกที่ว่าประมูลขึ้นทำการประมูลใหม่เท่านั้น
โจทก์แถลงว่า แม้ประมูลได้และวางเงินมัดจำแล้วก็ยังไม่มีสิทธิเข้าทำประมงโดยจะต้องไปขอรับประทานบัตรและทำหนังสือผูกขาดเสียเงินค่าประมูลผูกขาดเสียก่อน กรณีในคดีนี้จำเลยลงมือทำประมงไปโดยยังมิได้ไปขอรับประทานบัตรและทำสัญญาผูกขาดทั้งยังไม่ได้ชำระเงินค่าผูกขาดโดยขอผัดผ่อนชำระเงินหลายครั้ง
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน วินิจฉัยว่ากรณียังไม่ได้ทำสัญญาผูกขาดกันโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าผูกขาด คงมีแต่สิทธิที่จะริบเงินมัดจำและเลิกสัญญา แม้จะฟังว่าเป็นกรณีละเมิดเข้าทำการประมง แต่โจทก์ก็ตั้งรูปฟ้องมาในเรื่องผิดสัญญาเท่านั้น จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีหาได้ยุติอยู่เพียงการที่จำเลยไม่มาทำสัญญาผูกขาดและชำระเงินเท่านั้นไม่ แต่ปรากฏตามฟ้องว่า จำเลยได้เข้าจับสัตว์น้ำในที่ผูกขาดตลอดมาจนสิ้นฤดูและไม่ชำระเงินประมูลที่ตกลงและขอผัดผ่อนชำระไว้ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่ามีการตกลงกันใหม่โดยผ่อนผันไม่ต้องทำตามเงื่อนไขเดิม ก็เท่ากับว่าตกลงให้จำเลยทำประมงได้โดยไม่ต้องทำสัญญาผูกขาดกันเป็นลายลักษณ์อักษรแม้วิธีการที่ทำสัญญาผูกขาดนั้นเป็นการปฏิบัติตามกฎกระทรวงเกษตรฯ แต่กฎกระทรวงดังกล่าวนี้ก็เป็นแต่เพียงระเบียบปฏิบัติเพื่อความเรียบร้อยและเป็นหลักฐานมั่นคง หาใช่เป็นบทบัญญัติว่า ถ้าไม่ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบแล้วจะเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้และสัญญาทำประมงนั้นไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ ส่วนจำเลยจะมีสิทธิทำประมงหรือไม่นั้นไม่เป็นปัญหาเพราะโจทก์ได้ยินยอมให้จำเลยทำประมงแล้ว จึงให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่