คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

++บันทึกของเจ้าพนักงานว่า ++ของกลางมีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นน้ำสุรา ลงนามเจ้าหนักงานบันทึกและเจ้าพนักงานผู้พิสูจน์อีกคนหนึ่ง โจทก์น้ำแต่เจ้าพนักงานผู้พิสูจน์มาสืบแต่ผู้เดียว ศาลก็ย่อมรับฟังได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีน้ำขาวหมักส่าและน้ำข้าวหมักเมาซึ่งเป็นวัตถุผสมมีแรงแอลกอฮอล์สามารถใช้ดื่มกินได้เช่นสุรา โดยจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นน้ำสุราที่ทำขึ้นผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษ
ศาลจังหวัดสระบุรีเห็นว่า ฉะเพาะในเรื่องปิ๊ปใส่น้ำขาวของกลางนั้นฟังได้ว่ามีน้ำขาวใส่อยู่ ๕ – ๖ ลิตร์ซึ่งนายร้อยตำรวจโทเทียนได้ทำการพิสูจน์ แล้วปรากฏว่ามีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับสุรา จึงพิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๖ มาตรา ๘
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าน้ำขาวในปี๊ปของกลางนั้น โจทก์นำสืบไม่พอที่จะฟังว่ามีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา เพราะโจทก์ส่งแต่ใบบันทึกการตรวจของเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่ได้นำนายร้อยตำรวจโทเทียมนั้นไม่ได้พิพากษากลับศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ใบบันทึกของกลางที่เจ้าพนักงานตรวจน้ำขาวของกลางรายนี้ปรากฏว่ามีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นสุรา ใบบันทึกนี้ได้ลงนามนาร้อยตำรวจโทเทียมผู้บันทึก นายบุญสืบผู้กล่าวหาพิสูจน์และ โจทก์ได้นายบุญสืบมาเป็นพะยานเบิกความว่า พะยานเป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตต์อำเภอที่เกิดเหตุ และจับกุม จำเลยกับของกลางนี้ น้ำขาวของกลางรายนี้พิสูจน์แล้วสามารถดื่มกินได้ เช่นเดียวกับน้ำสุรา ฝ่ายจำเลยไม่คัดค้านประการใด จึงฟังได้ว่าน้ำขาวของกลางนี้มีแรงแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นสุรา ไม่จำต้องสืบนายร้อยตำรวจโทเทียมผู้จดบันทึกและทำการพิสูจน์ด้วยอีกคนหนึ่ง จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น

Share