คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7473/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,15,66,102 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1ที่ 2 และที่ 5 จำหน่ายเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ให้แก่ผู้มีชื่อ แม้โจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 3และที่ 4 ร่วมกันครอบครองเฮโรอีนของกลางก็ตาม แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 กับพวกร่วมกันมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องเกี่ยวกับฐานความผิดอันเป็นข้อแตกต่างกันในรายละเอียดทั้งจำเลยที่ 3 และที่ 4 นำสืบต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองมิได้มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครอง การบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าว จึงไม่เป็นเหตุให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 หลงต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่พิจารณาได้ความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสองกรณีมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งห้าร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1จำนวน 3 หลอดดูดเครื่องดื่ม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 0.06 กรัมให้แก่ผู้มีชื่อเป็นเงิน200 บาท เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งห้าได้พร้อมด้วยเฮโรอีนที่จำเลยทั้งห้าจำหน่ายไป และเงินจำนวน 8,100 บาท ที่ได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีนซึ่งรวมทั้งเงิน 200 บาท ที่เจ้าพนักงานใช้ล่อซื้อเฮโรอีนและเข็มฉีดยา 1 ชุดซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จำเลยทั้งห้าใช้ในการเสพเฮโรอีนเป็นของกลางขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15, 66, 102 และริบของกลางทั้งหมดเว้นแต่ธนบัตรของกลางจำนวน 200 บาท ให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ แต่จำเลยที่ 1 รับว่ามีเฮโรอีน 3 หลอด และจำเลยที่ 2 รับว่ามีเฮโรอีน1 หลอด ไว้เพื่อเสพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 67ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ลดโทษให้จำเลยที่ 1และที่ 2 คนละกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ 3 ถึงที่ 5 ลดโทษคนละหนึ่งในสาม คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2คนละ 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 ถึงที่ 5 ลงโทษจำคุกคนละ 8 เดือน ริบเฮโรอีนของกลาง ของกลางอื่นให้แก่เจ้าของ ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 3 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 และที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 5 ครอบครองเฮโรอีนของกลางโดยมิได้รับอนุญาตคงมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยที่ 3และที่ 4 ว่าศาลล่างทั้งสองมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่พิจารณาได้ความได้หรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 3และที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 5 จำหน่ายเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ให้แก่ผู้มีชื่อโดยมิได้บรรยายว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันครอบครองเฮโรอีนของกลาง เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4กับพวกร่วมกันมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องเกี่ยวกับฐานความผิดอันเป็นข้อแตกต่างกันในรายละเอียดซึ่งมิใช่ข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยที 3 และที่ 4 นำสืบต่อสู้ว่า จำเลยทั้งสองมิได้มีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครอง ดังนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีนให้แก่ผู้มีชื่อจึงไม่เป็นเหตุให้จำเลยที่ 3 และที่ 4 หลงต่อสู้ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4 ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่พิจารณาได้ความได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยดังที่จำเลยที่ 3 และที่ 4 ฎีกา
พิพากษายืน

Share