คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7455/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

น. ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์และมีอำนาจแต่งตั้งตัวแทนช่วยกระทำการดังกล่าวได้ ขณะยื่นฟ้องคดี น. มอบอำนาจช่วงให้ ว. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ดังนี้ ว. ผู้รับมอบอำนาจช่วงจึงมีอำนาจยื่นคำฟ้องแทนโจทก์โดยชอบ แม้ภายหลังเมื่อ ว. ลาออกจากบริษัทโจทก์แล้ว น. จะมอบอำนาจช่วงให้ ช. เป็นผู้ดำเนินคดีแทนและหนังสือมอบอำนาจช่วงฉบับหลังนี้ไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ให้ถูกต้องครบถ้วนก็หามีผลกระทบไปถึงการฟ้องที่ ว. ได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบตามหนังสือมอบอำนาจช่วงฉบับแรกซึ่งได้ปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าโดยถูกต้องครบถ้วนแล้วแต่ประการใดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 297,562.14 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาตามอุทธรณ์ข้อกฎหมายของโจทก์ที่ว่า หนังสือมอบอำนาจช่วงตามเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งโจทก์มิได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ที่ปิดบนเอกสารดังกล่าวจะมีผลให้นายชัยรัตน์ผู้รับมอบอำนาจช่วงโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ขณะยื่นคำฟ้อง โจทก์โดยกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายสุวัฒน์หรือนายนเรนทร์คนใดคนหนึ่งมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ โดยให้มีอำนาจแต่งตั้งตัวแทนช่วงหรือทนายความคนหนึ่งคนใดหรือหลายคนเพื่อให้กระทำการดังกล่าวได้ด้วยตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 และนายนเรนทร์ได้มอบอำนาจให้นายวิชาญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ดังนั้น ขณะยื่นคำฟ้องนายวิชาญผู้รับมอบอำนาจจึงมีอำนาจยื่นคำฟ้องคดีนี้แทนโจทก์ได้โดยชอบ แม้ข้อเท็จจริงได้ความตามคำเบิกความของนายชัยรัตน์พยานโจทก์ ซึ่งศาลชั้นต้นรับฟังมาว่า ภายหลังเมื่อนายวิชาญลาออกจากบริษัทโจทก์แล้ว นายนเรนทร์จึงได้มอบอำนาจให้นายชัยรัตน์เป็นผู้ดำเนินคดีนี้แทนตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.4 อันเป็นเวลาภายหลังจากโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามแล้ว และถึงแม้ขณะที่ทนายโจทก์นำนายชัยรัตน์มาเบิกความประกอบหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนโจทก์จะมิได้มีการขีดฆ่าอากรแสตมป์บนหนังสือมอบอำนาจตามเอกสารหมาย จ.4 ก็ตาม ก็มิใช่เป็นกรณีที่จะต้องใช้หนังสือมอบอำนาจนั้นเป็นพยานหลักฐานเพื่อจะรับฟังว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายชัยรัตน์ฟ้องจำเลยทั้งสามหรือไม่ดังความเห็นของศาลชั้นต้น ดังนั้น แม้หนังสือมอบอำนาจของนายนเรนทร์ที่มอบอำนาจให้นายชัยรัตน์เป็นผู้ดำเนินคดีนี้แทนโจทก์ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.4 จะมิได้มีการขีดฆ่าอากรแสตมป์ให้ถูกต้องครบถ้วนก็หาได้มีผลกระทบไปถึงการยื่นคำฟ้องที่นายวิชาญได้ดำเนินการไปแล้วโดยชอบตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ซึ่งได้ปิดอากรแสตมป์และขีดฆ่าโดยถูกต้องครบถ้วนแล้วแต่ประการใดไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น เมื่อคดียังมีประเด็นอื่นที่ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัย กรณีมีเหตุสมควรให้ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีใหม่ตามรูปแบบคดีต่อไป”
พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share