คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7444/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานเดินหมายได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้จำเลยโดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2540 การส่งคำบังคับดังกล่าวมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสองดังนั้น คำบังคับที่ส่งให้แก่จำเลย จึงมีผลในวันที่ 18 กันยายน 2540 จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่การส่งคำบังคับตามคำพิพากษามีผล จึงครบกำหนดในวันที่ 2 ตุลาคม 2540จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ในวันที่ 27 ตุลาคม 2540 ล่วงระยะเวลา 15 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จำเลยจึงขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 บัญญัติไว้แต่เพียงว่าคำขอให้พิจารณาใหม่นั้น ให้ยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษา หาได้บัญญัติให้นับจากวันที่พ้นกำหนดระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับเข้าไว้ด้วยไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าสินค้าวัสดุก่อสร้างและเบี้ยปรับรวม 668,687.01 บาท พร้อมเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 2ต่อเดือน ของต้นเงิน 473,509 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 530,882.75 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 473,509 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 กันยายน 2540 ขอให้พิจารณาใหม่

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 27 ตุลาคม 2540 ขอให้พิจารณาใหม่

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยที่ 1 โดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 2กันยายน 2540 จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 กันยายน2540 ศาลยกคำร้อง จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อีกในครั้งนี้ แต่พ้นกำหนดเวลา 15 วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับ และกรณีไม่ปรากฏพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 มีว่า จำเลยที่ 1จะต้องยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในกำหนด 15 วัน นับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 หรือต้องนับรวมกำหนดเวลาที่ให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามคำบังคับอีก 30 วัน นับแต่วันส่งคำบังคับผล เห็นว่า พนักงานเดิมหมายได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 โดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2540ซึ่งการส่งคำบังคับดังกล่าวมีผลใช้ได้เมื่อกำหนดเวลา 15 วัน ได้ล่วงพ้นไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 วรรคสอง ดังนั้นคำบังคับที่ส่งให้แก่จำเลยที่ 1 จึงมีผลในวันที่ 18 กันยายน 2540 จำเลยที่ 1อาจยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่การส่งคำบังคับตามคำพิพากษามีผล จึงครบกำหนดในวันที่ 2 ตุลาคม 2540 จำเลยที่ 1 มายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ในวันที่ 27 ตุลาคม 2540 ล่วงเลยระยะเวลา 15 วันตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้

ส่วนที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 มีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่การส่งคำบังคับตามคำพิพากษามีผลและต้องนับกำหนดเวลาที่ให้จำเลยที่ 1ปฏิบัติตามคำบังคับอีก 30 วันด้วยนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 บัญญัติไว้แต่เพียงว่า คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นให้ยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษา หาได้บัญญัติให้นับจากวันที่พ้นกำหนดระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับเข้าไว้ด้วยไม่จำเลยที่ 1จะยกเอากำหนดเวลาการที่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับมาเพื่อขยายเวลาการยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ได้

พิพากษายืน

Share