คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเสนอคำฟ้องหรือคำฟ้องแย้งต่อศาลต้องมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นแล้วเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลตาม ก.ม.
การที่จำเลยให้การว่า การซื้อขายห้องพิพาท ระหว่างโจทก์กับเจ้าของเดิมเป็นการสมยอม โจทก์ไม่ใช่คู่สัญญา เมื่อศาลยังมิได้ชี้ขาด อย่างใดจำเลยจะมาฟ้องแย้งว่า แม้เจ้าของเดิมทำสัญญาซื้อขายห้องพิพาทกับโจทก์โดยชอบ สัญญาเช่าห้องพิพาทที่เจ้าของเดิมทำให้จำเลยย่อมติดตามมาอยู่กับโจทก์ จำเลยยังได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ ขอให้บังคับโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไปตามสัญญาเช่าเดิมดังนี้ไม่ได้

ย่อยาว

โ่จทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวซึ่งซื้อจากนายกิมโหย่งนางฟู้ จำเลยต่อสู้ว่าทำสัญญาเช่ากับนายกินโหย่ง จำเลยไม่ผิดสัญญา และไม่ทราบการซื้อขายรายนี้ หากมีจริงก็เป็นการสมยอม โจทก์ควรร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
ก่อนวันชี้สองสถานจำเลยยื่นคำร้องว่า ถ้าศาลฟังว่านายกิมโหย่งทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าห้องพิพาทที่นายกิมโหย่งทำให้จำเลยย่อมติดตามมาอยู่กับโจทก์ จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.. ควบคุมค่าเช่า ฯ จึงฟ้องแย้งบังคับให้โจทก์ยอมให้จำเลยเช่าห้องพิพาทต่อไปตามสัญญาเดิม
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในฟ้องแย้งว่า คดีนี้จำเลยให้การต่อสู้ไว้ศาลยังมิได้ชี้ขาดอย่างใด จำเลยจะมาฟ้องแย้งเผื่อไว้หาได้ไม่ จึงสั่งไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าการเสนอคำฟ้องหรือคำฟ้องแย้ง ต่อศาลนั้น ต้องมีข้อโต้แย้งซึ่งได้บังเกิดขึ้นแล้วเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตาม ก.ม.แพ่ง หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นจึงชอบที่จะเสนอคำฟ้องหรือคำฟ้องแย้งของตนต่อศาลได้ ดังที่ได้บัญญัติไว้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๕๕ ฉนั้นจำเลยจึงขอเสนอคำฟ้องแย้งเผื่อล่วงหน้าไว้ โดยที่ยังมิได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น ดังเช่นคำฟ้องแย้งในคดีนี้ไม่ได้
จึงพิพากษายืน

Share