คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 745/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าซื้อที่จากจำเลย 7 ไร่เศษ (ในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน 7 ไร่ 1 งาน 25 วา) จำเลยฉ้อโกงเอาที่ของโจทก์ 3 ไร่ เศษไปขายผู้อื่น ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์เมื่อทำแผนที่วิวาทโจทก์นำชี้รวมเนื้อที่ 11 ไร่เศษจำเลยนำชี้ว่าขายโจทก์ 8 ไร่เศษตรงตามรูปแผนที่หลังหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน ซึ่งไม่คลุมถึงที่รายพิพาทดังนี้เมื่อโจทก์จะขอสืบต่อไปถึงเรื่องครอบครองที่รายพิพาทซึ่งมิได้กล่าวอ้างไว้ในฟ้องจึงเป็นเรื่องนอกฟ้อง นอกประเด็นสืบไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินจากจำเลย 1 แปลง 7 ไร่เศษบัดนี้จำเลยฉ้อโกงเอาที่ของโจทก์ราว 3 ไร่เศษ ไปขายให้บริษัทเขงหงวน ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อรั้วไปไม่ให้เกี่ยวข้อง

จำเลยว่าเคยขายให้จริงแต่ไม่ใช่ที่พิพาท

ทำแผนที่วิวาทแล้วปรากฏว่าโจทก์นำชี้รวมเนื้อที่ 11 ไร่ 2 งานเศษ จำเลยชี้ว่าขายโจทก์มีเนื้อที่ราว 8 ไร่ 1 งานเศษคงพิพาทกันในวงเส้นสีแดง 3 ไร่ 1 งาน 15 วา

ศาลชั้นต้นสืบโจทก์ 1 ปาก โจทก์ขอสืบต่อไปว่าซื้อขายกันเต็มตามที่โจทก์นำชี้ สัญญาซื้อขายไม่ถูกต้อง ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานวินิจฉัยว่า ตามฟ้องปรากฏว่าซื้อที่ดินจากจำเลย 7 ไร่เศษ สัญญาซื้อขายว่า 7 ไร่ 1 งาน 25 วา ตามแผนที่วิวาทปรากฏว่าจำเลยได้ที่ดินมากกว่าหนังสือสัญญาซื้อขาย แสดงว่าที่ดินที่ซื้อขายไม่ถึงที่พิพาทโจทก์จะขอสืบเป็นซื้อ 11 ไร่ ไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีเรื่องนี้โจทก์กล่าวความยืนยันว่าได้ซื้อที่ดินจากจำเลยมาเนื้อที่ 7 ไร่เศษ และอ้างหนังสือสัญญาซื้อขาที่ดินเป็นหลักฐานประกอบฟ้องก็ปรากฏว่าที่ดินที่ซื้อขายรวม 7 ไร่ 1 งาน 25 วาเท่านั้น พิเคราะห์รูปแผนที่ในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน ก็ตรงกับรูปที่ดินวงเส้นสีเหลืองในแผนที่วิวาทที่จำเลยนำชี้ว่าได้ขายให้โจทก์ไป มิได้เกี่ยวข้องถึงที่ในวงเส้นสีแดงรายนี้เลย มิหนำซ้ำยังปรากฏว่าที่ดินในวงเส้นสีเหลือมีเนื้อที่ถึง 8 ไร่ 1 งาน 60 วา เกินกว่าเนื้อที่ที่โจทก์ฟ้อง และที่ปรากฏในหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินของโจทก์นั้นด้วย นับว่าเป็นผลดีแก่โจทก์อยู่มากแล้ว กลับจะขอสืบต่อไปถึงเรื่องครอบครองที่รายพิพาทซึ่งโจทก์ไม่กล่าวอ้าง ในฟ้องจึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาชอบแล้ว

จึงพิพากษายืน

Share