แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายความซึ่งคู่ความตั้งแต่งมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ ฉะนั้นทนายโจทก์จึงมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องแทนตัวโจทก์ได้ เพราะตาม ป.วิ.แพ่ง มาตร 1(7) “กระบวนพิจารณา” หมายความถึงการฟ้องต่อศาลด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงิน ๔๕๐๐ บาท กับดอกเบี้ยให้โจทก์ โดยจำเลยผิดสัญญารับเงินจากโจทก์ไป (เพื่อทำการย่อยหินส่งให้โจทก์) แล้วไม่ปฏิบัติตามสัญญา ในคำฟ้องนายชัยชาญ โพธิรังษาการทนายโจทก์ลงชื่อแทนโจทก์
จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ กับตัดฟ้องเรื่องทนายโจทก์ไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้อง และยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาเบื้องต้นตามที่จำเลยยกเป็นข้อตัดฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่านายชัยชาญทนายโจทก์มีอำนาจลงชื่อในฟ้องได้
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
คดีจึงมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาข้อเดียวว่า ในคดีแพ่ง ทนายความซึ่งคู่ความได้ตั้งแต่งตามกฎหมายแล้ว จะมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องแทนคู่ความได้หรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา ๖๒ ทนายความซึ่งคู่ความได้ตั้งแต่งนั้น มีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ ฯลฯ และตามมาตรา ๑ (๗) “กระบวนพิจารณา” หมายถึงการฟ้องต่อศาลด้วย ฉะนั้นทนายโจทก์ จึงมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องแทนตัวโจทก์ได้
พิพากษายืน