คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไว้เอง โดยมีข้อตกลงว่าจะยอมให้ผู้อื่นซื้อไปได้ในเมื่อเอาเงินมาชำระให้ตนนั้น ไม่ใช่เรื่องซื้อที่ดินแทนผู้อื่นในทางเป็นตัวแทน แต่เป็นสัญญาในทางซื้อขาย ฉะนั้นเมื่อได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมาเกินสิบปีแล้วแม้ยังไม่ได้โอนโฉนดที่ดินก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ซื้อตามมาตรา1382

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมนายแก้ว นายชั้นเป็นเจ้าของร่วมกันในโฉนดที่ 2078 ศาลจึงยึดส่วนของนายชั้นขายทอดตลาด โจทก์รับซื้อไว้จากการขายทอดตลาด แต่ยังไม่ได้ทำการโอนต่อเจ้าพนักงาน เพราะยังไม่ได้รังวัดแยกโฉนดกัน โจทก์คงใช้อำนาจปกครองมาอย่างเจ้าของ 13 ปีเศษแล้ว จำเลยได้ประกาศรับมรดกนายชั้นโอนทะเบียนใส่ชื่อจำเลยจึงขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์แทน

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทไว้แทนจำเลย ไม่ได้ใส่ชื่อไว้เพื่อตนเอง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ซื้อที่พิพาทแทนจำเลยนั้นปรากฏตามที่จำเลยนำสืบ ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไว้เอง โดยมีข้อตกลงว่าโจทก์ยอมให้จำเลยซื้อจากโจทก์ได้ในเมื่อจำเลยมีเงินมาชำระให้โจทก์ จึงเป็นข้อสัญญาในการซื้อขาย ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ซื้อที่ดินแทนในทางเป็นตัวแทนเมื่อรูปคดีฟังได้ว่าโจทก์ซื้อเพื่อตนเองและได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปี แม้ยังไม่ได้โอนโฉนด ที่ดินก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 1382

พิพากษากลับ ให้ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ให้จัดการถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดแล้ว ใส่ชื่อโจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

Share