แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามีการโอนเงินจำนวนหนึ่งจากธนาคารในเมือง ฮ่องกง มาเข้าบัญชีกระแสรายวันของจำเลยในธนาคารผู้คัดค้าน ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นอย่างอื่น ในเบื้องต้นต้องฟังว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของจำเลยผู้เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวมิใช่เป็นของจำเลยแต่เป็นของผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยส่งมาชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านแทนจำเลย ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ฟังได้ตามข้ออ้างของตน.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 ที่ 2ร่วมกันชำระหนี้ให้โจทก์ ต่อมามีการโอนเงินจากเมืองฮ่องกงมาเข้าบัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ 1 ในธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัดสาขากรุงเทพมหานคร ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินดังกล่าว แต่ธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่มีและบัญชีของจำเลยปิดแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่บัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ 1ไม่มีเงินเพราะธนาคารดังกล่าวหักบัญชีไม่ถูกต้อง โดยนำหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระมาหักบัญชี
ธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัด สาขากรุงเทพมหานครยื่นคำคัดค้านว่าเงินที่ส่งมาเข้าบัญชีจำเลยที่ 1 เป็นเงินของผู้ค้ำประกันหนี้จำเลยที่ 1 มิใช่เงินของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ยกคำร้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าโจทก์มีสิทธิขออายัดเงินในบัญชีกระแสรายวันเลขที่ 0185953 ของจำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2525 มีการนำเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวซึ่งเป็นบัญชีของจำเลยที่ 1ในธนาคารผู้คัดค้านเป็นเงิน 19,539,650.44 บาท ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นอย่างอื่นในเบื้องต้นต้องฟังว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวมิใช่เป็นของจำเลยที่ 1 แต่เป็นเงินของนาย ที.ซี.เช็งผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 ที่ส่งมาชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ฟังได้ตามข้ออ้างของตน และจากทางนำสืบของคู่ความศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานของผู้คัดค้านไม่พอฟัว่านาย ที.ซี.เช็ง ได้ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1ต่อธนาคารชาร์เตอร์ด และเงิน 19,539,650.44 บาท เป็นเงินของนาย ที.ซี.เช็ง ที่ส่งมาชำระหนี้ให้ผู้คัดค้านแทนจำเลยที่ 1หนี้ที่จำเลยที่ 1 เป็นหนี้ผู้คัดค้านก็ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่ 1 และหนี้ถึงกำหนดชำระแล้วจึงมีสิทธิขอให้ศาลสั่งอายัดเงินในบัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวได้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของโจทก์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกคำคัดค้านของผู้คัดค้าน ให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเลขที่ 0185953 ของจำเลยที่ 1ที่ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2525.