แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ใช้มีดพกปลายแหลมทั้งตัวทั้งด้ามยาว 1 คืบเศษ แทงชายโครงขวา 1 ที โดยมีโอกาสเลือกแทงและจะแทงซ้ำอีกหากผู้เสียหายหนีทันและแพทย์รักษาได้ทันท่วงที เป็นพยายามฆ่า
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าคน พิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ปรับตามมาตรา 371 อีก 100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุก 10 ปี ตามมาตรา 288, 80 จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายและนางเง็กเตียงพยานโจทก์ว่าขณะที่ผู้เสียหายและนางเง็กเตียงกำลังนั่งคิดบัญชีเงินที่ผู้เสียหายซื้อของเชื่อจากนางเง็กเตียง เพื่อชำระเงินอยู่ที่โต๊ะอาหารในร้านของนางเง็กเตียง หันหน้าเข้าหากัน จำเลยเข้าไปทางข้างหลังผู้เสียหายแล้วใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ1 คืบเศษแทงผู้เสียหาย 1 ที ถูกบริเวณชายโครงขวาผู้เสียหายวิ่งหนีไปได้ประมาณ50 เมตรก็หมดสติล้มลง บาดแผลที่ชายโครงขวาของผู้เสียหายยาว 2.5 เซนติเมตรกว้าง 1.5 เซนติเมตร ลึกเข้าภายในเส้นเลือดดำใหญ่ส่วนล่างฉีกขาดถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจถึงแก่ความตายได้ ในการรักษานายแพทย์ต้องผ่าท้องผู้เสียหาย ผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 14 วัน แล้วยังต้องไปรักษาตัวที่บ้านอีกเดือนเศษ จำเลยใช้มีดปลายแหลมทั้งตัวมีดและด้ามยาวประมาณคืบเศษแทงผู้เสียหายโดยเข้าไปทางข้างหลังขณะที่ผู้เสียหายนั่งอยู่จำเลยย่อมมีโอกาสเลือกแทงได้ และเลือกแทงให้ถูกอวัยวะส่วนสำคัญ อันอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้และยังจะแทงซ้ำอีก หากแต่ผู้เสียหายหนีเสียทันทั้งนี้เนื่องจากจำเลยมีเรื่องโกรธเคืองถึงกับชกต่อยกับผู้เสียหายมาก่อนตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย หากแต่ผู้เสียหายได้รับการรักษาพยาบาลจากนายแพทย์เสียทันท่วงที จึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายดังโจทก์ฟ้อง”
พิพากษายืน