คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7357/2553

แหล่งที่มา :

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาตามยอมแต่ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าขึ้นศาลนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 สั่งว่า ค่าขึ้นศาลมีเพียง 200 บาท จึงไม่คืนให้ ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยวางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน 75,000 บาท ความผิดพลาดจึงเกิดเพราะความผิดหลงในข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งความผิดพลาดในเรื่องการคืนค่าขึ้นศาลให้แก่จำเลยนี้เป็นคนละส่วนกับข้อตกลงในสัญญาประนีประยอมความของคู่ความซึ่งไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะระบุว่าค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับก็เป็นข้อตกลงระหว่างคู่ความในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม เมื่อคดีได้เสร็จเด็ดขาดโดยสัญญาหรือการประนีประนอมยอมความซึ่งเป็นเรื่องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 151 วรรคสอง ดังนั้น เมื่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะมีคำสั่งแก้ไขข้อผิดพลาดเช่นว่านั้นให้ถูกต้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 143 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 246 และ 247

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์และจำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552 พร้อมกับสั่งค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ว่า ส่วนค่าขึ้นศาลมีเพียง 200 บาท จึงไม่คืนให้
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 โจทก์ถึงแก่ความตาย นางดวงตา ภริยาและทายาทของโจทก์ ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งอนุญาต
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แก้ไขคำพิพากษาที่ไม่คืนค่าขึ้นศาลดังกล่าวและสั่งคืนค่าขึ้นศาลให้แก่จำเลยเป็นกรณีพิเศษ โดยคำนวณจากค่าขึ้นศาล 75,000 บาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาแล้ว มีคำสั่งว่า เป็นการแก้ไขคำพิพากษาอีกทั้งตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 3. ก็ระบุให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับซึ่งค่าฤชาธรรมเนียมนั้นย่อมรวมถึงค่าขึ้นศาลด้วย กรณีไม่อาจสั่งคืนได้ ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง (ที่ถูกฎีกาคำสั่ง)
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาตามยอมแต่ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าขึ้นศาลนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 สั่งว่า ค่าขึ้นศาลมีเพียง 200 บาท จึงไม่คืนให้ ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยวางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน 75,000 บาท ความผิดพลาดจึงเกิดเพราะความผิดหลงในข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งความผิดพลาดในเรื่องการคืนค่าขึ้นศาลให้แก่จำเลยนี้เป็นคนละส่วนกับข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความของคู่ความซึ่งไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แม้สัญญาประนีประนอมยอมความจะระบุว่าค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับก็เป็นข้อตกลงระหว่างคู่ความในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างกันเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ที่จะสั่งคืนค่าขึ้นศาล เมื่อคดีได้เสร็จเด็ดขาดโดยสัญญาหรือการประนีประนอมยอมความ ซึ่งเป็นเรื่องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 วรรคสอง ดังนั้น เมื่อคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาเห็นสมควรที่จะมีคำสั่งแก้ไขข้อผิดพลาดเช่นว่านั้นให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 246 และ 247 ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จำนวน 65,000 บาท แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ

Share