คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10207/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาเข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมัน โจทก์เพียงตกลงให้สิทธิจำเลยที่ 1 ดำเนินกิจการสถานีบริการน้ำมันภายใต้ชื่อทางการค้า “บางจาก” ของโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ต้องซื้อน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากโจทก์มาจำหน่าย สินค้าดังกล่าวจึงเป็นสินค้าของโจทก์ แม้มีการใช้เครื่องหมายการค้า “บางจาก” กับสินค้านั้น ก็เป็นการใช้โดยโจทก์ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้เอง แล้วนำมาจำหน่ายให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าต่อไป มิใช่จำเลยที่ 1 จัดหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้ามาแล้วนำเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้กับสินค้าของจำเลยที่ 1 โดยโจทก์อนุญาตอันจะถือเป็นกรณีที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ สัญญาดังกล่าวจึงมิใช่สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าที่ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 68 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้ค่าซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ค้างชำระ ค่าตอบแทนสิทธิเข้าดำเนินการสถานีน้ำมันที่ยังค้างชำระพร้อมเบี้ยปรับ ค่าเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินในสถานีบริการน้ำมัน ค่าบริหารหนี้ค้างชำระและค่าปรับ การชำระหนี้ล่าช้า ค่าปรับกรณีธนาคารคืนเช็คที่นำเข้าเรียกเก็บเงิน ค่าเสียหายจากการนำน้ำมันจากแหล่งอื่นเข้ามาจำหน่าย ค่าขาดประโยชน์จาก การใช้สถานีบริการน้ำมันหลังจากที่เลิกสัญญาแล้วเนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่ส่งมอบสถานีบริการน้ำมันแก่โจทก์ รวมทั้งดอกเบี้ยด้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 10,592,925.43 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 10,586,144.42 บาท และเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน ของต้นเงิน 55,859.68 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากสถานีบริการน้ำมันเลขที่ 199 ถนนสันป่าตอง – บ้านกาด ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และให้ส่งมอบสถานีบริการน้ำมันบางจากพร้อมอาคารและวัสดุอุปกรณ์ของสถานีบริการน้ำมันในสภาพที่เรียบร้อยพร้อมใช้งานได้โดยสมบูรณ์ หากไม่ดำเนินการให้ชำระค่าปรับวันละ 20,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากสถานีบริการน้ำมัน และส่งคืนทรัพย์สินของโจทก์จนเรียบร้อยครบถ้วน
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 774,359.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 55,856.68 บาท (ที่ถูก 55,859.68 บาท) นับแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 1 และบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากสถานีบริการน้ำมันเลขที่ 199 ถนนสันป่าตอง – บ้านกาด ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งส่งมอบสถานีบริการน้ำมันบางจาก อาคารและวัสดุอุปกรณ์ของสถานีบริการน้ำมันในสภาพที่เรียบร้อยให้โจทก์ และให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์ในอัตราวันละ 1,500 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 14 ธันวาคม 2544) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 และบริวารจะขนย้ายทรัพย์สินและส่งมอบอาคารและที่ดินพิพาทให้โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 8,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยปัญหาว่า สัญญาเข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมันบางจากรวมทั้งบันทึกต่อท้ายสัญญาตามคำฟ้องเป็นโมฆะหรือไม่ เห็นว่า ตามสัญญาเข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมันบางจาก ข้อ 1 ระบุถึงข้อตกลงการใช้สิทธิว่า โจทก์ตกลงให้สิทธิแก่จำเลยที่ 1 เข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมันเพื่อการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดต่าง ๆ แก่บุคคลทั่วไป ภายใต้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ ณ สำนักงานเลขที่ 199 หมู่ที่ 1 ถนนสันป่าตอง – บ้านกาด ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยสิทธิความเป็นเจ้าของและสิทธิการครอบครองที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์จำหน่าย และป้ายของสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวยังคงเป็นของโจทก์ และตามสัญญาข้อ 9 ระบุถึงค่าตอบแทนที่จำเลยทั้งสองตกลงชำระแก่โจทก์ จากข้อสัญญาดังกล่าวเห็นได้ว่า โจทก์เพียงตกลงให้สิทธิจำเลยที่ 1 เข้าดำเนินกิจการสถานีบริการน้ำมันของโจทก์ภายใต้ชื่อทางการค้าคำว่า “บางจาก” ของโจทก์เท่านั้น น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่จำเลยที่ 1 ต้องซื้อจากโจทก์มาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันตามข้อสัญญาดังกล่าวจึงเป็นสินค้าของโจทก์เอง แม้จะมีการใช้เครื่องหมายการค้า “บางจาก” กับสินค้าดังกล่าวก็เป็นการใช้เครื่องหมายการค้าโดยโจทก์ผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้นี้เอง และนำมาจำหน่ายให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าต่อไปเท่านั้น มิใช่กรณีที่จำเลยที่ 1 จัดหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้ามาเองแล้วนำเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาใช้กับสินค้าของจำเลยที่ 1 นั้นโดยโจทก์อนุญาต อันจะถือเป็นกรณีที่โจทก์อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์แต่อย่างใด สัญญาเข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมันบางจากรวมทั้งบันทึกต่อท้ายสัญญาดังกล่าวซึ่งเป็นการระบุรายละเอียดประกอบข้อสัญญาเข้าดำเนินการสถานีบริการน้ำมันบางจากอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาดังกล่าว จึงมิใช่สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าที่จะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียนตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ดังนั้น แม้จะไม่จดทะเบียนต่อนายทะเบียนก็หาตกเป็นโมฆะไม่
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 850,759.68 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share