คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้จำเลยทำนาพิพาทระหว่างความ หรือเรียกคู่ความมาประมูลเช่านาพิพาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คู่ความประมูลเช่านาพิพาทกัน ดังนี้ เป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณาตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 228 (2) ซึ่งคู่ความย่อมอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไป.

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้จำเลยทำนาพิพาทระหว่างความ หรือเรียกคู่ความมาประมูลเช่านาพิพาท จำเลยยื่นคำร้องคัดค้าน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คู่ความประมูลเช่านาพิพาทกัน จำเลยแถลงไม่ขอประมูลและอุทธรณ์คำสั่ง โจทก์คัดค้านว่า เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ส่วนที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ จำเลยประมูลนาพิพาท เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยอมเข้าประมูล ศาลจะสั่งบังคับเช่นนั้นมิได้ พิพากษกลับให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ประมูลนาพิพาท และยกคำร้องของโจทก์เสีย
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความ ในระหว่างการพิจารณา ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา ๒๒๘ (๒) ซึ่งคู่ความย่อมอุทธรณ์ได้ภายในกำหนด ๑ เดือนนับแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไป และคำคู่ความตามมาตรา ๑ (๑๑) หมายถึงผู้ยื่นคำฟ้องและถูกฟ้องต่อศาล ผู้ถูกฟ้องคือ จำเลย ฉะนั้นจำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้ ส่วนข้อที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อจำเลยไม่ยอมประมูล ศาลจะบังคับจำเลยให้ประมูลหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์ให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share