แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลูกหนี้ต้องคำพิพากษาให้ชำระหนี้โจทก์ ลูกหนี้จึง+เงินไปวางต่อศาล เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาดังนี้ ไม่ทำให้อายุความการบังคับคดีสดุดหยุดลง
ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.271
การนับอายุความการบังคับ+จะต้องนับจากวันที่ศาลได้พิพากษาท้ายยอม ไม่ใช่นับจากวันที่คดีเรื่องขัดทรัพย์ถึงที่สุด
ย่อยาว
จำเลยทำสัญญายอมความยอมใช้เงินให้โจทก์และศาลได้พิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๐ ต่อมามีการบังคับคดีตามสัญญายอมความนั้นมีผู้ร้องขัดทรัพย์ คดีร้องขัดทรัพย์ถึงที่สุดเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๔๗๒ ครั้น วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๘๑ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดทรัพย์ของจำเลยอีกโดยอ้างว่าทรัพย์ที่ยึดไปแล้วยังไม่พอชำระหนี้ จำเลยคัดค้านว่าโจทก์ขอบังคับคดีเมื่อเกิน ๑๐ ปี แล้วไม่ได้
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่าการนับอายุความการบังคับคดีต้องนับแต่วันที่ศาลพิพากษาท้ายยอม ไม่ใช่นับจากวันที่คดีเรื่องขัดทรัพย์ถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับผู้ร้อง หาใช่ข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่ คดีนี้จึงล่วงเลยการบังคับคดีแล้ว ส่วนปัญหาที่ว่าการที่จำเลยนำเงินไปวางศาลเพื่อชำระหนี้โจทก์จะทำให้อายุความสดุดหยุดลงหรือไม่นั้น เห็นว่าอายุความไม่สดุดหยุดลง เพราะเป็นเรื่องที่ลูกหนี้ปฏิบัติตามคำพิพากษาจึงพิพากษายืนตามศาลล่างให้ยกคำร้องขอยึดทรัพย์จำเลย