แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า พระอาทิตย์ใกล้จะเริ่มขึ้นหรือกำลังเริ่มขึ้น ซึ่งตามธรรมดาย่อมมีแสงสว่างแล้ว ทั้งไม่มีคำพะยานปากใดว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ดังนี้จะเรียกว่าเป็นเวลากลางวันยังไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ ซึ่งเป็นเวลากลางคืน จำเลยได้เข้าไปแก้โคสองตัวของนายลา จุลเหลา ที่ถูกผู้ร้ายลักไปผู้ซุ่มไว้ในป่า ทั้งนี้โดยจำเลยสมคบกันลักโคสองตัวนั้นไป หรือมิฉะนั้นก็ได้สมคบกันรับโครายนี้ไว้โดยรู้สึกว่าเป็นโคร้ายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓,๒๙๔ และ ๓๒๑
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยจำคุกจำเลยคนละ ๑ ปีตามมาตรา ๓๒๑
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เวลาแตกต่างกันเป็นคนละวันเวลาเพราะปรากฎว่าจำเลยเข้ามาแก้โคในเวลาสว่างแล้ว คือรุ่งเช้าของวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ ซึ่งเป็นเวลากลางวันข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังว่า ได้ความตามคำพะยานโจทก์ว่า เมื่อจำเลยกับพวกเข้ามาแก้โคเป็นเวลาใกล้สว่าง บางคนก็ว่าสว่างแล้ว น่าเชื่อว่าเวลานั้นเพิ่มรุ่งหรือเริ่มสว่าง และแลเห็นตัวจำหน้ากันได้ไม่มืด จึงฟังได้ว่า เวลานั้นพระอาทิตย์ใกล้จะเริ่มขึ้นหรือกำลังเริ่มขึ้นซึ่งตามธรรมดาย่อมมีแสงสว่างแล้ว ไม่มีคำพะยานปากใดว่าเวลานั้นพระอาทิตย์ขึ้นแล้วเลยดังนี้ จะเรียกว่าเป็นเวลากลางวันยังไม่ได้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาไม่ต่างกับฟ้อง จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น