คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7259/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง , 102 ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 จำคุกจำเลย 25 ปี แม้จำเลยจะอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาเพียงอย่างเดียว และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ฎีกาของจำเลยแปลว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้องอันเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
การที่จำเลยซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในตัวจำเลยย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยเจตนายึดถือ เมทแอมเฟตามีนดังกล่าว แม้จำเลยจะรับจ้างนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งมอบให้แก่ผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ก็ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางแล้ว
พ.ร.บ. บัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า การผลิต นำเข้า ส่งออก หรือ มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไปให้ถือว่า ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย บทบัญญัติดังกล่าวเป็นข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาด เมื่อเมทแอมเฟ-ตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 8,200 เม็ด น้ำหนัก 712.93 กรัม ที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 158.615 กรัม ถือได้ว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดสำเร็จตลอดเวลาที่มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง แม้จำเลยจะเป็นผู้รับจ้างนำเมทแอมเฟตามีนของกลางไปส่งที่จุดหมายปลายทาง แต่จำเลยถูกจับเสียก่อน ก็ต้องถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วหาใช่เป็นเพียงการพยายามกระทำความผิดไม่
พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 25 ปี เป็นการลงโทษขั้นต่ำตามกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖, ๖๗, ๑๐๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒, ๘๓ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสอง, ๖๖ วรรคสอง, ๑๐๒ (ที่ถูกประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓) ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบมาตรา ๕๓ คงจำคุก ๒๕ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยเป็นเพียงผู้รับจ้างจากเจ้าของเมทแอมเฟตามีนของกลางเพื่อนำไป ส่งมอบให้แก่ผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน จึงมิได้มีเจตนาครอบครองและไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่ามีไว้ เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยเป็นเพียงขั้นพยายามกระทำผิดนั้น เห็นว่า แม้ในชั้นอุทธรณ์จำเลยจะอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้อุทธรณ์ในปัญหาที่ยกขึ้นฎีกาก็ตาม แต่ฎีกาของจำเลยดังกล่าวแปลได้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้อง อันเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ว่าจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์ภาค ๕ จำเลยก็ยกขึ้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕ และศาลฎีกาเห็นควรวินิจฉัยให้ ซึ่งในปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีน หรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า พบเมทแอมเฟตามีนจำนวน ๘,๒๐๐ เม็ด แบ่งบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้ามีฝาเปิดปิด ใส่ไว้ในผ้าอนามัยมี่จำเลยซุกซ่อนไว้บริเวณสายรัดเสื้อชั้นในด้านข้างจำนวนข้างละ ๑ ชิ้น และเป้ากางเกงชั้นในอีก ๑ ชิ้น การที่จำเลยซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีนไว้ในตัวจำเลย ย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยเจตนายึดถือเมทแอมเฟตามีน ดังกล่าวไว้ แม้จำเลยจะรับจ้างนำเมทแอมเฟตามีนไปส่งมอบให้แก่ผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันก็ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาที่จำเลยอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้
ส่วนในปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า แม้เมทแอมเฟตามีนของกลางจะมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เกินกว่า ๒๐ กรัม ก็ไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่ามีไว้เพื่อจำหน่ายเพราะจำเลยเป็นเพียงผู้รับจ้างนำเมทแอมเฟตามีน ของกลางไปส่งมอบให้แก่ผู้ร่วมกระทำผิดเท่านั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสอง บัญญัติว่า การผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ตั้งแต่ยี่สิบกรัมขึ้นไปให้ถือว่า ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย บทบัญญัติดังกล่าวเป็น ข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ จำนวน ๘,๒๐๐ เม็ด น้ำหนัก ๗๑๒.๙๓ กรัมที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๑๕๘.๖๑๕ กรัม เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวได้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว จำเลยจึงต้องมีความผิดตามฟ้อง และแม้จำเลยจะเป็นผู้รับจ้างนำเมทแอมเฟตมมีนของกลางไปส่งที่จุดหมายปลายทางที่สถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพมหานคร แต่จำเลยถูกจับที่จังหวัดเชียงรายเสียก่อน ก็ไม่เป็นการพยายามกระทำความผิด เพราะการมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายย่อมเป็นความผิดสำเร็จตลอดเวลาที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองนั่นเอง สำหรับฎีกาของจำเลยที่ขอให้ลดโทษแก่จำเลยลงอีกนั้น เห็นว่า โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคสอง มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๕ วางโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การ รับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบมาตรา ๕๓ คงจำคุก ๒๕ ปี เป็นการลงโทษขั้นต่ำตามกฎหมาย ไม่อาจลดโทษให้ต่ำลงกว่านี้ได้แล้ว ศาลล่างทั้งสองลงโทษชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share