แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ร่วมถึงแก่ความตายในระหว่างพิจารณาผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้าดำเนินคดีต่างผู้ตายปรากฏว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยอาจทำให้พยานหลักฐานโจทก์เสียหายได้จึงไม่เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นางสาลินีผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์ร่วมยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่าโจทก์ร่วมได้ถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อมนางนงลักษณ์และนายญาณพลยื่นคำร้องว่า เป็นบุตรของโจทก์ร่วมผู้ตาย มีความประสงค์ขอเข้าดำเนินคดีต่างผู้ตาย นางสุพัตราผู้ร้อง ยื่นคำร้องว่า เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ร่วมผู้ตาย มีความประสงค์ขอเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วม ผู้ตายต่อมานายญาณพลแถลงไม่ประสงค์จะเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วมผู้ตาย ศาลชั้นต้นอนุญาต หลังจากไต่สวนแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เห็นว่า ผู้ร้องเป็นภริยาจำเลย ประกอบกับโจทก์คัดค้านว่าอาจทำให้พยานหลักฐานของโจทก์เสียหาย ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วม ผู้ตาย แต่อนุญาตให้นางนงลักษณ์เข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วม ผู้ตาย ต่อไป
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวนและไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วม ผู้ตาย ไม่ชอบนั้น เห็นว่าในวันนัดไต่สวนโจทก์แถลงว่าผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยหากเข้ามาในคดีอาจทำให้พยานหลักฐานโจทก์เสียหายได้ ผู้ร้องมิได้แถลงคัดค้านว่าไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามที่โจทก์แถลงจึงไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนต่อไป และการที่ผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยและอาจทำให้พยานหลักฐานโจทก์เสียหายได้ จึงไม่เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้ดำเนินคดีต่างโจทก์ร่วม ผู้ตายต่อไป
พิพากษายืน