คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนเป็นไปโดยไม่ชอบสมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยอ้างว่ากรรมการนับคะแนนวินิจฉัยบัตรเสียว่าเป็นบัตรดี และ บัตรดีว่าเป็นบัตรเสียกับอ้างว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งได้จูงใจราษฎรให้ลงคะแนนให้แก่ตน ต่อมาในชั้นพิจารณาผู้ร้องเพียงแต่อ้างรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18) และขอให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคล ดังนี้ข้อเท็จจริงก็ฟังไม่ได้ตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านมาศาลย่อมสั่งยกคำร้องคัดค้านของผู้ร้องเสีย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลว่าสมควรจะให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในเขตเลือกตั้งจังหวัดสกลนครใหม่ เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2512 เป็นไปโดยมิชอบ

ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครและผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาพผู้แทนทุกคน ซึ่งบุคคลดังกล่าวยื่นคำร้องแก้ข้อกล่าวหาของผู้ร้องว่าตามคำร้องของผู้ร้องไม่เป็นความจริง

ในวันนัดพิจารณา นายแสวง แสงจันทร์ ผู้ร้องแถลงต่อศาลว่าขอให้ศาลตรวจนับคะแนนดีและคะแนนเสียเท่าที่ปรากฏในรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18) ที่เจ้าหน้าที่นำส่งศาล แล้วขอให้ศาลวินิจฉัยไปเลยว่า การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบหรือไม่ โดยไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครแถลงว่า บัตรเสียที่ปรากฏในรายงานแสดงผลการนับคะแนน (ผ.ท.18) นั้น เป็นบัตรเสียรวมทุกประเภทไม่ใช่เฉพาะบัตรเสียตามที่ผู้ร้องร้องคัดค้านเท่านั้น บัตรเสียเหล่านี้จะเป็นบัตรเสียของหมายเลขเท่าใดไม่ทราบ

ศาลชั้นต้นทำความเห็นส่งไปยังศาลฎีกาว่า เมื่อผู้ร้องร้องคัดค้านการเลือกตั้งว่าเป็นไปโดยมิชอบ สมควรจะให้มีการเลือกตั้งใหม่อย่างไรก็เป็นหน้าที่ของผู้ร้องที่จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงให้ปรากฏเห็นควรยกคำร้อง

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องนั้นมีอยู่ 2 ข้อ คือ 1 หาว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนตรวจนับบัตรดีเป็นบัตรเสีย และบัตรเสียเป็นบัตรดี 2. หาว่านายโบแดง จันตะเสน และนายประชา ตงศิริผู้ได้รับเลือกตั้งสองคนนี้ว่า ได้โฆษณาจูงใจราษฎรว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งแล้วจะสร้างรั้ววัด จะทำถนนและมุงหลังคาศาลาการเปรียญให้และให้ระฆัง 1 ใบ ราคา 3,000 บาทแก่วัดบ้านบงเหนือ เพื่อจูงใจให้ราษฎรลงคะแนนให้แก่ตน

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อผู้ร้องไม่สืบพยาน ข้อกล่าวหาในข้อ 2 เกี่ยวกับการกระทำของนายโบแดง จันตะเสน และนายประชา ตงศิริฟังไม่ได้ ฉะนั้นจึงไม่มีข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัย ข้อกล่าวหาข้อนี้จึงตกไป

ส่วนข้อกล่าวหาตามข้อ 1 นั้น ศาลฎีกาได้ตรวจรายงานผลการนับคะแนนที่ผู้ร้องอ้างมาแล้ว ปรากฏว่า ในรายงานผลการนับคะแนนทุกหน่วยได้รายงานว่า จำนวนผู้เลือกตั้งซึ่งปรากฏในบัญชีรายชื่อผู้เลือกตั้ง จำนวน …… คนนั้น ได้มาแสดงตนขอรับบัตรเลือกตั้งเพื่อการลงคะแนนรวมทั้งสิ้น ….. คน ได้คะแนน ….. คน ไม่ลงคะแนน…… คน เป็นบัตรเสีย

Share