แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าตึกเพื่อใช้เป็นสถานที่รับจ้างซักรีดผ้า ติดป้ายโฆษณาและตั้งตู้แสดงกิจการซักรีด ตำบล ซึ่งตึกเช่าตั้งอยู่ ก็อยู่ในทำเลการค้า วัตถุประสงค์แห่งการเช่า ไม่ปรากฎว่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ดังนี้ จะถือว่าตึกเช่านั้นเป็น “เคหะ” ตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ(ฉะบับที่ 2) พ.ศ.2490 มาตรา 3 ไม่ได้ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 16
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าของโจทก์ อ้างว่า จำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าสัญญาเช่าครบกำหนดแล้ว และบอกเลิกการเช่าแล้วแต่จำเลยไม่ออกจากตึกเช่า
จำเลยต่อสู้ว่า เช่าเพื่ออยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองจากพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งรับปัญหาข้อกฎหมายข้อเดียวว่าตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา ตึกพิพาทเป็น “เคหะ” หรือไม่
ศาลฎีกาตรวจประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงปรากฎว่า จำเลยเช่าตึกพิพาทเพื่อใช้เป็นสถานที่รับจ้างซักรีดผ้า ติดป้ายโฆษณาและตั้งตู้แสดงกิจการของจำเลยทั้งตำบลซึ่งตึกตั้งอยู่ในทำเลการค้า (ถนนสุริยวงษ์ บางรัก) วัตถุประสงค์แห่งการเช่าไม่ปรากฎว่าเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่นนี้ จึงถือไม่ได้ว่าตึกพิพาทเป็น “เคหะ” ตามความหมายของมาตรา ๓ แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า (ฉะบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๐ จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองตามมาตรา ๑๖
คงพิพากษายืน