คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7214/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.สามีจำเลยเคยถูก ส.ร้องทุกข์และกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ พ.ต่อสู้ว่าที่ดินที่ปลูกต้นไม้เป็นของ พ.ได้รับมาโดยทางมรดกมิได้อาศัยหรือเช่าที่ดินแปลงนั้นจากใคร ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า คดีไม่พอฟังว่าต้นไม้และที่ดินที่ปลูกต้นไม้เป็นของ ส. พิพากษายกฟ้อง คดีดังกล่าวถึงที่สุด จากข้อต่อสู้ของ พ.ในคดีดังกล่าวถือได้ว่า พ.ได้โต้แย้ง ส.ผู้มีชื่อเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทว่า พ.เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทซึ่งเท่ากับ พ. ได้เปลี่ยนเจตนาการครอบครองที่ดินพิพาทจากการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของ ส.มาเป็นการแย่งการครอบครองเพื่อตนเองแล้วตั้งแต่นั้น เมื่อ ส.ไม่ได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองที่พิพาทเสียภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ส.ก็หมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งสิทธิครอบครองที่พิพาทจาก พ.
การที่ ส.ขายที่ดินพิพาทแก่โจทก์หลังจากที่ ส. หมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนที่ดินพิพาทจาก พ. หรือจำเลยแล้ว แม้โจทก์จะซื้อที่ดินพิพาทจาก ส.โดยสุจริตและจดทะเบียนการโอนต่อเจ้าหน้าที่โดยสุจริตก็ตาม โจทก์ในฐานะผู้รับโอนก็ย่อมจะไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทเช่นกัน

Share