คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8203/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 นำรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุไปร่วมกิจการเดินรถกับจำเลยที่ 3 ในเส้นทางที่ได้รับสัมปทานจากทางราชการ โดยจำเลยที่ 3 ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากจำเลยที่ 2 ร้อยละ 13 ของยอดรายได้ที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายและยอมให้จำเลยที่ 3 นำรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุไปทำสัญญาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 4 กับยอมให้จำเลยที่ 3 พ่นชื่อบริษัทจำเลยที่ 3 ไว้ที่ข้างรถ จึงถือว่าจำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นหุ้นส่วนประกอบกิจการรับขนคนโดยสารด้วยกันในลักษณะหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ในทางการที่จ้างของห้างหุ้นส่วนดังกล่าว จำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ในผลแห่งการละเมิดของจำเลยที่ 1 ด้วย
ที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า จำเลยที่ 4 ต้องรับผิดไม่เกิน250,000 บาท ในนามของจำเลยที่ 3 นั้น ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ความรับผิดในจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยที่ 3 ต้องใช้ให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลดลง เนื่องจากโจทก์มีสิทธิที่จะบังคับคดีเอาแก่จำเลยที่ 3 ได้เต็มจำนวน

Share