คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์กำหนดโทษจำคุกจำเลยหนักเกินไปหากศาลฎีกาเห็นว่ายังไม่เหมาะสมตามพฤติการณ์แห่งรูปคดีย่อมกำหนดโทษใหม่ได้ เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นบ้านจำเลยเพื่อหาเฮโรอีน การที่จำเลยได้นำเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นบริเวณบ้านดังกล่าวย่อมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เป็นเหตุลดโทษ ศาลฎีกาลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ จำนวน 42 หลอดหนัก 37.782 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีขอให้ลงโทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2528) มาตรา 4 และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคแรก ให้ลงโทษจำคุก30 ปี และให้ริบเฮโรอีน หลอดพลาสติกเปล่ากับตะกร้าพลาสติกของกลางอันเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่…เห็นว่า พยานโจทก์ดังกล่าวเป็นเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติการตามหน้าที่และไม่มีเหตุที่จะปรักปรำใส่ร้ายจำเลยประกอบกับจำเลยก็ได้นำตรวจค้นปรากฏตามภาพถ่ายหมาย ปจ.2 และ ปจ.3 รวม 4 ภาพด้วยเชื่อได้ว่า เจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติการไปโดยสุจริต ดังจะเห็นได้ว่าในวันจับกุมและสอบสวนเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ เจ้าพนักงานตำรวจก็บันทึกไปตามความเป็นจริง ไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้จำเลยรับสารภาพแต่อย่างใด ที่จำเลยนำสืบทำนองว่า เฮโรอีนของกลางเป็นของเจ้าพนักงานตำรวจนำมาเองนั้น มีน้ำหนักน้อยเพราะนอกจากจะไม่มีเหตุผลที่จะต้องกระทำเช่นนั้นแล้ว ยังปรากฏว่ายึดได้เฮโรอีนของกลางที่บ้านจำเลยหลายแห่งด้วยกัน หากเจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้นำเฮโรอีนของกลางมาเอง ก็ไม่น่าจะต้องนำมาซุกซ่อนไว้กระจัดกระจายหลายแห่งเช่นนี้ พยานหลักฐานจำเลยไม่มีน้ำหนักพอที่จะฟังหักล้างพยานโจทก์ได้พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองเฮโรอีนของกลางตามฟ้องจริง และเฮโรอีนของกลางเมื่อเป็นสารบริสุทธิ์แล้วมีน้ำหนัก 37.782 กรัม จึงต้องถือว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางดังกล่าวไว้เพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นแต่เห็นว่าศาลล่างทั้งสองกำหนดโทษจำคุกจำเลย 30 ปีหนักเกินไปยังไม่เหมาะสมตามพฤติการณ์แห่งรูปคดี ทั้งการนำตรวจค้นบริเวณบ้านเกิดเหตุของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้างเป็นเหตุลดโทษ ศาลฎีกาจึงแก้ไขให้เหมาะสม”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 20 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลย 15 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 3

Share