แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า “รับอุทธรณ์โจทก์” ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใด เมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วัน เช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ป.วิ.แพ่ง ม.174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือน ม.174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร
ฎีกาที่ 798/2498
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้แสดงกรรมสิทธิและขอห้ามจำเลยอย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้ที่พิพาทเป็นของจำเลยตามที่จำเลยฟ้องแย้ง ห้ามมิให้โจทก์และบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่พิพาทต่อไป
นางรุณ ผู้รับมรดกความโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ที่พิพาทเป็นของโจทก์ และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
เมื่อโจทก์อุทธรณ์แล้วโจทก์มิได้จัดนำเจ้าพนักงานของศาลไปส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยแก้ โจทก์ได้เพิกเฉยเสียเป็นเวลา ๒๗ วัน นับแต่วันฟ้องอุทธรณ์นับได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๗๔ ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรให้จำหน่ายคดีตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๓๑(๑)
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำเนามาให้ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดีแล้วโจทก์จึงมาร้องให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยแก้ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสีย ฯลฯ
โจทก์ฎีกา ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำสั่งของศาลอุทธรณ์เสียและสั่งให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยต่อไปอ้างว่าโจทก์มิได้ลงนามทราบคำสั่งของศาลชั้นต้น และอีกประการหนึ่งศาลชั้นต้นมิได้ส่งคำสั่งนั้นให้โจทก์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๗๔(๒)
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อโจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นลงแต่เพียงว่า “รับอุทธรณ์โจทก์สำเนาให้จำเลย” เป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะต้องกำหนดวันให้โจทก์มานำเสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๗๐,๒๔๖ เพราะป.วิ.แพ่ง มิได้กำหนด ไว้ว่า ผู้อุทธรณ์จะต้องนำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่อีกผ่ายหนึ่งในกี่วัน เมื่อศาลได้กำหนดเวลาและผู้อุทธรณ์ทราบแล้ว มิได้มานำเจ้าพนักงานไปได้ภายในระยะเวลาดังกล่าวคดีจึงจะเข้าตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๗๔(๒)
เมื่อศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งให้แก่จำเลยภายในเวลาเท่าใด และเมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลย หลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา ๒๗ วัน นับว่าไม่นานเกินสมควรตามนับฎีกาที่ ๗๙๘/๒๔๙๘ ระหว่างนายเล็ก รอดประสิทธิ กับพวก โจทก์ นายเล็ก บางแค กับพวก จำเลย
การส่งสำเนาอุทธรณ์ไม่เหมือนการส่งหมายเรียกของศาลชั้นต้น ซึ่ง ม.๑๗๔(๑) กำหนดไว้ว่า เมื่อเสนอคำฟ้องแล้วโจทก์จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดีภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันยื่นคำฟ้อง อนุมาตรา ๑ นี้กำหนดระยะเวลา ๑๕ วันไว้ตายตัวว่า โจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือนอนุมาตรา ๒ ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดระยะเวลาตามสมควร กล่าวคือการส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน ๑๐ วัน แล้วให้ศาลชั้นต้นจัดการต่อไปตามกระบวนพิจารณา.