แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายใช้มีดแทงผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านร้องให้ช่วย จำเลยที่ 1 จึงใช้ไม้ตี 1 ทีและจำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิง 1 นัดพร้อมๆ กันทั้งสองคน
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามพยานโจทก์ว่าผู้ตายใช้มีดโถมเข้าแทงผู้ใหญ่บ้านๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 2 จึงยิงผู้ตาย 1 นัดในทันทีทันใดขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงผู้ใหญ่บ้าน ตัวมีดห่างตัวผู้ใหญ่บ้านในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงก่อนนายแผนอาจถูกทำร้ายถึงตายได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันฆ่าพลทหารปีโดยเจตนา โดยจำเลยที่ 1ใช้ไม้ตะบองตีถูกศีรษะเหนือหูขวา จำเลยที่ 2 ใช้ปืนลูกซองสั้นยิงถูกด้านหลังใต้ไหล่ซ้ายกระสุนฝังใน พลทหารปีตาย ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 249, 63
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ ต่อสู้ว่าที่กระทำไปนั้นเพื่อป้องกันชีวิตของนายแผน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้ตายใช้มีดแทงนายแผนผู้ใหญ่บ้าน นายแผนหลบจนล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยที่ 1 จึงใช้ไม้ตี 1 ที และจำเลยที่ 2 ใช้ปืนลูกซองพกยิง 1 นัด พร้อม ๆ กัน เป็นการป้องกันผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ 1 กระทำป้องกันตัวพอสมควรตัวแก่เหตุส่วนจำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิงผู้ตายตายเป็นการเกินสมควรแก่เหตุจึงพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ตาม กฎหมายอาญา มาตรา 249, 53 จำคุก 5 ปีและให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 ไปตาม มาตรา 50
นายประคองจำเลยที่ 2 ผู้เดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ปล่อยตัวนายประคองจำเลยที่ 2 ไป
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามฟ้องของโจทก์
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ 2 มีหน้าที่เป็นเวรยามช่วยผู้ใหญ่บ้านรักษาเหตุการณ์ในคืนนั้น และพยานโจทก์เองยืนยันผู้ตายชักมีดออกโถมเข้าแทงนายแผน ๆ หลบล้มลงและเรียกให้ช่วย จำเลยจึงได้ใช้ปืนยิงผู้ตายไป 1 นัดในทันทีทันใด และพยานยืนยันว่าขณะที่ยิงนั้นผู้ตายกำลังจะแทงนายแผน ตัวมีดห่างตัวนายแผนในขณะที่ล้มอยู่ประมาณ 1 ศอก ถ้าไม่ยิงเสียก่อนนายแผนก็อาจถูกแทงถึงตายได้เห็นได้ชัดว่าจำเลยที่ 2 กระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุพิพากษายืน