คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7138/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องดังกล่าวว่า เสนอวันนี้รับอุทธรณ์ โดยยังมิได้สั่งเกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยไม่วางเงินหรือหาประกันมาวางเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้ตามคำพิพากษา โดยไม่ได้ส่งไปให้ศาลอุทธรณ์สั่งนั้นเป็นการไม่ชอบ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอุทธรณ์สั่งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้ว โดยไม่ได้กำหนดเรื่องจำเลยไม่วางเงินหรือหาประกันมาวางศาลใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้คำพิพากษาจึงมีเหตุให้น่าเชื่อว่า จำเลยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนไม่นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 466,550.73 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน 376,371.95 บาท นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2537เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งว่า เสนอวันนี้ รับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์สำเนาให้โจทก์รวบรวมส่งศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยว่า เสนอวันนี้ รับอุทธรณ์ โดยยังมิได้สั่งเกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยไม่วางเงินหรือหาประกันมาวางเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้ตามคำพิพากษา โดยไม่ได้ส่งไปให้ศาลอุทธรณ์สั่งนั้นเป็นการไม่ชอบเพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลอุทธรณ์สั่ง เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้แล้ว โดยไม่ได้กำหนดเรื่องจำเลยไม่วางเงินหรือหาประกันมาวางศาลใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้คำพิพากษา จึงมีเหตุให้น่าเชื่อว่า จำเลยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนไม่นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาล หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้จำเลยนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลชั้นต้นหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้ หากจำเลยดำเนินการหรือไม่ดำเนินการภายในกำหนดดังกล่าวก็ให้ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งต่อไป

Share