แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในฟ้องอุทธรณ์มีชื่อจำเลยเป็นผู้ยื่น แต่ในท้ายอุทธรณ์ทนายเป็นผู้ลงชื่อ อุทธรณ์นั้น ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้ว ฉะนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าทหนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยในฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะต้องคืนคำคู่ความไปให้ทำมาใหม่ให้ถูกต้องตาม วิ.แพ่ง.ม.18 จะยกอุทธรณ์จำเลยทีเดียวหาชอบไม่
การที่ศาลอุทธรณ์ยกอุทธรณ์จำเลยทุกคนโดยอ้างว่าทนายจำเลยไม่มีอำนาจลงชื่อในอุทธรณ์แทนจำเลยนั้นเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยเพียงคนเดียวฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยทุกคนได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปล้นทรัพย์ จำเลยเคยต้องโทษพ้นโทษไม่เกิน ๔ ปี ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ ส่วนข้อต้องโทษและพ้นโทษรับว่าจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดดังข้อหาให้ลงโทษ เมื่อเพิ่มโทษและลดโทษแล้วดังนี้คือจำคุกนายอาน นายท่อน จำเลยคนละ ๑๒ ปี จำคุกนายปรีดา นายแสน คนละ ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าใบแต่งทนายมีรอบ+ ฆ่าตกเดิมไม่มีลายมือชื่อกำกับ หมายจำเลยลงชื่อในอุทธรณ์โดยไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์แทนจำเลยได้ พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของทหนายจำเลยซึ่งลงชื่อแทนจำเลยทั้ง ๕ เสีย
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องอุทธรณ์ที่จำเลยยื่นโดยมีหมายลงชื่อในท้ายอุทธรณ์แทนจำเลยทั้ง ๔ นั้น ศาลชั้นต้นสั่งรับแล้วเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นฟ้องอุทธรณ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ควรคืนคำคู่ความนั้นไปให้ทำมาใหม่ตาม วิ.แพ่ง ม.๑๘ ชั้นนี้ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าใบแต่งทนายของจำเลยทั้ง ๔ ที่มอบอำนาจให้ทนายใช้สิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาให้นั้นสำบูรณ์หรือไม่ กรณีเป็นลักษณะคดีย่อมมีผลตลอดถึงจำเลยที่ไม่ได้ฎีกาด้วย พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นให้จำเลยผู้อุทธรณ์ลงลายมือชื่อในท้ายอุทธรณ์แล้วส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดพิพากษาใหม่