คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7125/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องรับสินค้าเหล็กพิพาทลงเรือลำเลียงและลากเรือลำเลียงไปลอยลำไว้ในความดูแลเพื่อรอคำสั่งจากโจทก์และจำเลยให้ทำการขนส่งต่อไป จึงย่อมมีสิทธิยึดหน่วงเหล็กพิพาทไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าระวางพาหนะและอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่รับสินค้าไว้ในความดูแล โดยสามารถใช้สิทธินี้ยันต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งตามใบตราส่งที่ออกไว้สำหรับการขนส่งเหล็กพิพาทครั้งนี้ได้ การที่สินค้าเหล็กพิพาทได้ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรอายัดและตกอยู่ภายใต้อารักขาของเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้มีสิทธิที่จะได้รับ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามพิธีการศุลกากรให้เสร็จสิ้น ถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีเจตนาสละการครอบครองหรือเจตนาไม่ยึดถือเหล็กพิพาทไว้ต่อไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 และ มาตรา 250 เมื่อผู้ร้องยังมีสิทธิยึดหน่วงสินค้าอยู่ แม้ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้ยึดเหล็กพิพาทนั้นไว้เพื่อเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้แก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ไม่ทำให้สิทธิยึดหน่วงของผู้ร้องสูญสิ้นไปเช่นกัน นอกจากผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องยังมีบุริมสิทธิเหนือสินค้าเหล็กนี้ด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 259 และมาตรา 267 สำหรับเอาค่าระวางพาหนะในการรับขน กับทั้งค่าใช้จ่ายอันเป็นอุปกรณ์และเป็นบุริมสิทธิมีอยู่เหนือของอันอยู่ในมือของผู้ขนส่ง ผู้ร้องจึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิในมูลรับขนก่อนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในมูลหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยชำระหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 112,993,086.35 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย จำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้บังคับคดีนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเหล็กบิลเล็ต (เหล็กแท่งตัน) ของจำเลย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการยึด
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ผู้ร้องมีบุริมสิทธิพิเศษในมูลหนี้รับขนของสินค้าเหล็กพิพาทจำนวน 11,830,417 บาท ให้ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จำนวน 11,830,417 บาท ก่อนโจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ วินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของโจทก์มีว่า ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิยึดหน่วงและมีบุริมสิทธิในมูลรับขนหรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้องตกลงรับสินค้าเหล็กพิพาทไว้ในความดูแลเพื่อรอทำการขนส่งต่อไปโดยชอบ จึงย่อมมีสิทธิยึดหน่วงเหล็กพิพาทไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าระวางพาหนะและอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่รับสินค้าไว้ในความดูแล ผู้ร้องสามารถใช้สิทธินี้ยันต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่งตามใบตราส่งที่ออกไว้สำหรับการขนส่งเหล็กพิพาทครั้งนี้ได้ การที่สินค้าเหล็กได้ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรอายัดและตกอยู่ภายใต้อารักขาของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ก่อนการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการตามพิธีการศุลกากรให้เสร็จสิ้น ถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีเจตนาสละการครอบครองหรือเจตนาไม่ยึดถือเหล็กพิพาทไว้ต่อไปตามมาตรา 1377 แห่ง ป.พ.พ. ที่ว่า “ถ้าผู้ครอบครองสละเจตนาครอบครองหรือไม่ยึดถือทรัพย์สินต่อไป การครอบครองย่อมสุดสิ้นลง” หากเป็นการต้องจำยอมให้สินค้าเหล็กตกอยู่ภายใต้อารักขาของเจ้าหน้าที่ศุลกากรไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ศุลกากร กรณีจึงไม่ทำให้การครองทรัพย์สินของผู้ร้องสูญสิ้นไปอันทำให้สิทธิยึดหน่วงต้องระงับสิ้นไปด้วย ตามมาตรา 250 แห่ง ป.พ.พ. ที่ว่า “ถ้าการครองทรัพย์สินสูญสิ้นไป สิทธิยึดหน่วงก็เป็นอันระงับไปด้วย” เมื่อผู้ร้องยังมีสิทธิยึดหน่วงสินค้าอยู่ แม้ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้ยึดเหล็กพิพาทนั้นไว้เพื่อเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาคดีถึงที่สุดให้แก่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ก็ไม่ทำให้สิทธิยึดหน่วงของผู้ร้องสูญสิ้นไปเช่นกัน นอกจากผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องยังมีบุริมสิทธิเหนือสินค้าเหล็กนั้นด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 259 ที่บัญญัติว่า “ถ้ามีหนี้อยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่างหนึ่งอย่างใดดังจะกล่าวต่อไปนี้ บุคคลนั้นย่อมมีบุริมสิทธิเหนือสังหาริมทรัพย์เฉพาะอย่างของลูกหนี้ คือ … (3) รับขนคนโดยสารหรือของ …” และตามมาตรา 267 ที่บัญญัติว่า “บุริมสิทธิในมูลรับขนนั้นใช้สำหรับเอาค่าระวางพาหนะในการรับขนคนโดยสารหรือของกับทั้งค่าใช้จ่าย อันเป็นอุปกรณ์และเป็นบุริมสิทธิมีอยู่เหนือของและเครื่องเดินทางทั้งหมดอันอยู่ในมือของผู้ขนส่ง” ผู้ร้องจึงมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิในมูลรับขนก่อนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในมูลหนี้ตามคำขอเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามาให้ผู้ร้องมีบุริมสิทธิเหนือสินค้าเหล็กพิพาท เพื่อเอาชำระหนี้ค่าระวางพาหนะกับค่าใช้จ่ายอันเป็นอุปกรณ์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน.

Share