คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยจับจองทับที่ของโจทก์ขอให้เพิกถอนการจับจอง จำเลยต่อสู้ว่า ที่ที่จับจองเป็นที่ว่างเปล่า ในที่สุดได้ตกลงท้ากันให้ศาลไปดูและวินิจฉัยเจาะจงข้อเถียงว่า ถ้าที่พิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชและธัญญะชาติ ก็ให้ โจทก์ชนะคดี ถ้าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ปลูกพืชผลธัญญะชาติอะไรไปเลย ให้จำเลยชนะคดี ดังนี้ เมื่อ ศาลไปดูแล้วปรากฎว่า ที่พิพาทมีสภาพเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติสมจริงแล้ว แม้จะมิได้ปลูกเต็มเนื้อที่พิพาท ก็ต้องให้โจทก์ชนะคดี ได้ที่พิพาททั้งหมด จะแบ่งให้โจทก์ได้เฉพาะตอนที่ปลูกพืชผล ส่วนตอนที่ไม่ได้ปลูกให้ได้แก่ จำเลยนั้นไม่ถูกต้องเพราะมิได้อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นข้อท้า เป็นการนอกประเด็น./

ย่อยาว

โจทห์ฟ้องว่า จำเลยจับจองทับที่ของโจทก์ประมาณ ๘ ไร่ ๘๐ วา จึงขอให้เพิกถอน
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่า
คราวชี้สองสถาน คู่ความตกลงกะประเด็นข้อแพ้ชนะกันข้อเดียวว่า ่ “ที่ดินรายพิพาทเป็นที่ดินซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติ หรือเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ปลูกอะไรเลย ถ้าที่รายพิพาทเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติอยู่ให้โจทก์ชนะคดี ถ้าเป็น ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ไม่ได้ปลูกพืชผลธัญญะชาติอะไรในที่ดินเลย ให้จำเลยชนะคดี ให้ศาลไปดูที่ดินรายพิพาทแล้วชี้ ขาด”
ศาลชั้นต้นไปดูที่พิพาทพร้อมด้วยคู่ความแล้ว จดรายงานกระบวนพิจารณาว่า ที่พิพาทภายในเส้นสีแดงเนื้อที่ประมาณ ๑ ไร่เศษ มีกระต๊อบ ๑ หลัง ต้นกล้วย ๑๙ ต้น ร่องมัน ๒๒ ร่อง ร้านถั่วเก่า ๕๐ หลุม มะละกอต้นเล็ก ๆ ๑๐ ต้น นอกนั้นเป็นที่ ว่างเปล่ามิได้ทำประโยชน์ปลูกพืชผลอะไรไว้เลย และชี้ขาดว่าที่พิพาทภายนอกเส้นสีแดงเป็นที่ว่าง โจทก์ไม่มีสิทธิครอบ ครอง คงพิพากษาให้เฉพาะที่ภายในเส้นสีแดง ๑ ไร่ เศา เป็นที่ดินของโจทก์ให้เพิกถอนการจับจองทับในส่วนนี้.
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ควรชนะคดีเต็มความฟ้อง จึงพิพากษาแก้ให้เพิกถอนการจับของที่พิพาททั้งหมด.
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อคู่ความได้ประนอมระงับข้อโต้เถียงมิได้ ประสงค์ให้ศาลวินิจฉัยบรรดาประเด็นข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง คำให้การ ตกลงกันใหม่เพียงตั้งประเด็นขอให้ศาลไปดูและวินิจฉัยโดยเฉพาะเจาะจงข้อเดียวว่า ถ้าที่พิพาทเป็นที่ซึ่ง ปลูกพืชผลธัญญะชาติให้โจทก์ชนะคดี ถ้าที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ปลูกพืชผลธัญญะชาติอะไรเลย ให้จำเลยแพ้ คดีก็เมื่อปรากฎตามที่ศาลไปดูว่าที่พิพาท มีสภาพเป็นที่ซึ่งปลูกพืชผลธัญญะชาติ สมจริงแล้ว ก็ชอบที่จะพิพากษาให้โจทก์ ชนะคดีไปตามคำท้า ส่วนการที่จะวินิจฉัยสับซอยต่อไปอีกว่า ที่พิพาทนอก สีแดงเป็นที่ว่าง โจทก์ก็ไม่มีสิทธิครอบครอง นั้น มิได้อยู่ในขอบข่ายแห่งประเด็นข้อท้า.
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว พิพากษายืน

Share