คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะพึงรับไว้พิจารณา จึงให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว 22 วัน จำเลยได้ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์ (ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาพ้นกำหนดอายุความอุทธรณ์นานถึง5เดือนเศษแล้ว) แล้วฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยดังนี้คดีไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยได้

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ที่ค้างแก่โจทก์และยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองเสีย

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาล พร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 อุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะพึงรับไว้พิจารณาตามคำพิพากษาฎีกาที่ 51/2489 และที่ 1806/2492 จึงพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ

จำเลยฎีกาให้รับอุทธรณ์

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยได้ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แก่โจทก์ เป็นเวลาหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาทั้งเป็นเวลาพ้นกำหนดอายุความอุทธรณ์นานถึง 4 เดือนเศษแล้ว คดีไม่มีเหตุที่จะสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลย จึงให้ยกฎีกาจำเลย

Share