แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่บุคคลมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกันนั้น ถือว่ามีกรรมสิทธิ์รวม
ที่ดินมีโฉนด ไม่ว่าผู้โอนให้จำเลยจะได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่เมื่อยังมิได้จดทะเบียนการได้มาจำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ซื้อที่พิพาทโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินโฉนดที่ 2369 โจทก์กับนางสุดถือกรรมสิทธิ์ฝ่ายละครึ่ง มิได้แยกโฉนด ครอบครองร่วมกันมา จำเลยซื้อส่วนของนางสุดในที่ดินรายนี้แล้วแสดงเจตนาครอบครองเอาที่ดินที่ซื้อทางแถบติดคลอง เป็นการนอกเหนือสัญญาซื้อขายโจทก์ขอให้แบ่งแยกฝ่ายละครึ่งและติดคลองเท่า ๆ กัน จำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลพิพากษาให้ จำเลยแบ่งแยกโฉนดและที่ดินให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ให้มีด้านติดคลองเท่ากับส่วนของจำเลย
จำเลยให้การว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนของนางจำเริญที่ขายให้โจทก์ซึ่งนางจำเริญครอบครองส่วนที่หมายเลข 5 นางสุดครอบครองส่วนที่หมายเลข 1, 2, 4 มาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว
าลชั้นต้นฟังว่า ที่ดินโฉนดที่ 2369 หมาย 1 (แผนที่พิพาทที่เจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้น) นางสุดครอบครองเป็นส่วนสัดมากว่า 10 ปี จำเลยได้กรรมสิทธิ์เฉพาะในส่วนนี้ โจทก์ได้กรรมสิทธิ์หมาย 2 และ 3 พิพากษาให้โจทก์ได้ที่หมาย 2 และ 3
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า นางสุดกับนายเปลี่ยนครอบครองที่ดินโฉนดที่ 2369 ร่วมกันส่วนได้ของนายเปลี่ยนตกได้แก่นางจำเริญและโจทก์นางสุดก็ได้ครอบครองร่วมกับนางจำเริญและโจทก์จนนางสุดขายให้จำเลย พิพากษาแก้ให้แบ่งที่ดินโฉนดที่ 2369 ให้โจทก์ครึ่งหนึ่งโดยให้ส่วนของโจทก์จำเลยมีด้านยาวติดคลองเท่ากัน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่นายเปลี่ยนกับนางสุดรับมรดกลงชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่พิพาทก็ดี เมื่อนางจำเริญรับมรดกนายเปลี่ยนบิดาลงชื่อกรรมสิทธิ์ที่พิพาทร่วมกับนางสุดก็ดี เมื่อโจทก์ซื้อส่วนของนางจำเริญลงชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทร่วมกับนางสุดก็ดีเมื่อจำเลยซื้อส่วนของนางสุดลงชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทร่วมกับโจทก์ก็ดี การที่มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทร่วมกันเช่นนี้ ชื่อว่ามีกรรมสิทธิ์รวม กฎหมายสันนิษฐานว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน มีสิทธิจัดการทรัพย์สินรวมกัน เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในทางจัดการตามธรรมดาได้ อาจทำการเพื่อรักษาทรัพย์สินได้ มีสิทธิใช้สอยทรัพย์สินนั้นได้ โดยไม่ขัดต่อสิทธิของเจ้าของรวมคนอื่น
ทางการนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏว่า โจทก์ซื้อส่วนของนางจำเริญไว้โดยรู้ว่าที่พิพาทส่วนที่หมาย 1 และ 3 เป็นของนางสุดแต่อย่างใด ดังนั้น ไม่ว่าที่พิพาทส่วนที่หมาย 1 และ 3 นางสุดจะได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ เมื่อยังมิได้มีการจดทะเบียนการได้มาเช่นนั้น จำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้ซื้อที่พิพาทส่วนของนางจำเริญโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตได้
พิพากษายืน