แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สำเนาหนังสือมอบอำนาจโจทก์เอกสารท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง มิได้ประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ซึ่งไม่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการจดทะเบียนของโจทก์ แสดงว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่สมบูรณ์ โจทก์ได้กล่าวอ้างมาในอุทธรณ์และฎีกาว่า ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจมีการประทับตราสำคัญของโจทก์ถูกต้องแสดงถึงเจตนาจะทำการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจโจทก์ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 66สั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจเสียให้สมบูรณ์ โดยให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องเสียให้สมบูรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน 5,105.29 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมิได้ประทับตราของโจทก์ไว้ตามหนังสือรับรองท้ายฟ้อง ฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติในเบื้องต้นว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายนริศ แจ่มศรี ฟ้องคดีนี้แทนตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 สำเนาภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้มีนางสาวรังษิยาภรณ์ อรุณสุรัตน์ภักดี และนายสุวิทย์ จิรชนานนท์กรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ลงลายมือชื่อร่วมกัน 2 คนแต่มิได้ประทับตราสำคัญของโจทก์ซึ่งไม่ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองการจดทะเบียนและรับรองเกี่ยวกับอำนาจกรรมการของโจทก์ มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า หนังสือมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องเป็นเพียงสำเนาเอกสาร ส่วนต้นฉบับเอกสารที่มีการประทับตราสำคัญของโจทก์นั้น โจทก์จะอ้างส่งในวันทำการสืบพยานโจทก์เพราะเป็นการอ้างเอกสาร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 เห็นว่าสำเนาเอกสารท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 ไม่มีการประทับตราสำคัญของโจทก์ จึงแสดงว่าการมอบอำนาจให้นายนริศมาฟ้องคดีนี้แทนโจทก์ไม่สมบูรณ์ ตามคำฟ้องของโจทก์ก็บรรยายว่าเป็นสำเนาภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งแสดงว่าโจทก์จะส่งต้นฉบับต่อศาลในชั้นพิจารณาและโจทก์ได้ระบุเอกสารฉบับนี้ไว้ในบัญชีระบุพยานโจทก์แล้ว โจทก์ได้กล่าวอ้างมาในอุทธรณ์และฎีกาว่า ต้นฉบับเอกสารฉบับนี้ได้มีการประทับตราสำคัญของโจทก์ถูกต้องตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนและรับรองเกี่ยวกับอำนาจกรรมการของโจทก์แสดงถึงเจตนาของโจทก์ว่าจะทำการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ฉะนั้นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาจึงอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 66 สั่งให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องอำนาจของผู้รับมอบอำนาจเสียให้สมบูรณ์โดยให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องเสียให้ถูกต้อง
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องของผู้รับมอบอำนาจเสียให้สมบูรณ์ภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี