คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7055/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 บัญญัติห้ามเฉพาะการนำพยานบุคคลเข้าสืบแทนพยานเอกสารหรือประกอบข้ออ้างว่ายังมีข้อความเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อความในเอกสารในเมื่อมีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง การที่โจทก์นำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับราคาที่ดินตามหนังสือสัญญาที่ทำกันเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2537อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากหนังสือสัญญาขายที่ดินที่จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินนั้น จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระราคาค่าที่ดินเป็นเงิน346,375 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน340,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยชำระค่าที่ดินให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์อีก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 340,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี คิดจากวันที่ 27 ตุลาคม2531 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ว่า สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินเอกสารหมาย ล.1 ระบุราคาซื้อขายเป็นเงิน 65,000 บาท ผิดจากความเป็นจริง เจตนาของโจทก์เพียงแต่โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย ส่วนราคาที่ดินโจทก์ถือตามหนังสือสัญญาซื้อขายที่จำเลยไม่ยอมคืนให้โจทก์มิได้ตกลงให้ระบุว่าราคาที่ดินในสำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินเป็นเงิน 65,000 บาท เป็นเรื่องที่จำเลยให้ระบุไว้เช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จึงเป็นหนังสือสัญญาไม่สมบูรณ์ โจทก์มีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้นั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 บัญญัติห้ามเฉพาะการนำพยานบุคคลเข้าสืบแทนพยานเอกสารหรือประกอบข้ออ้างว่ายังมีข้อความเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อความในเอกสารในเมื่อมีกฎหมายบังคับให้ต้องมีเอกสารมาแสดง การที่โจทก์นำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับราคาที่ดินตามหนังสือสัญญาที่ทำกันเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2527 อีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากสัญญาขายที่ดินที่จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินนั้น จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share